การยืดเยื้อของคดีระหว่างริปเปิล(XRP) และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) ซึ่งดำเนินมากว่า 3 เดือน กำลังใกล้สู่จุดเปลี่ยนสำคัญในวันที่ 16 มิถุนายน โดยถือเป็นกำหนดเส้นตายที่ทั้งสองฝ่ายต้องยื่นเอกสารทางกฎหมายที่จำเป็นให้เสร็จสิ้น
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมีนาคม แบรด การ์ลิงเฮาส์(Brad Garlinghouse) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของริปเปิล มีท่าทีมั่นใจว่า SEC จะยอมถอนฟ้องคดี แต่ในความเป็นจริงยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ อย่างเป็นทางการ และไม่มีการประกาศยุติคดีแต่อย่างใด ทั้งนี้ แม้เคยมีข้อตกลงเบื้องต้นเพื่อให้ริปเปิลจ่ายค่าปรับจำนวน 50 ล้านดอลลาร์ (ราว 695 พันล้านวอน) แต่ผู้พิพากษาแอนนาลีซา ตอร์เรส(Analisa Torres) กลับปฏิเสธข้อตกลงดังกล่าว เนื่องจากไม่มีการยื่นเอกสารตามข้อกำหนดของกฎข้อที่ 60
ด้าน เฟรด รีสโปลี(Fred Rispoli) ทนายความในสหรัฐ แสดงความคิดเห็นว่า “ความคืบหน้าของศาลอุทธรณ์ลำดับที่ 2 ถือว่าสำคัญอย่างยิ่ง” พร้อมชี้ให้เห็นว่าทั้งริปเปิลและ SEC ยังไม่ได้ยื่นเอกสารเพิ่มเติมตามที่ควรจะทำ หากฝั่งใดฝั่งหนึ่งพลาดเส้นตายในวันที่ 16 มิถุนายนนี้ กระบวนการพิจารณาผ่านขั้นตอนเร่งด่วนอาจยืดเยื้อออกไปอีก 60 วัน
ปัจจุบัน ริปเปิลมีราคาซื้อขายอยู่ที่ระดับ 2.15 ดอลลาร์ ปรับตัวลดลงประมาณ 12% ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา บริษัทริปเปิลได้เข้าซื้อบริษัทนายหน้ารายใหญ่อย่างฮิดเดน โรด ในมูลค่า 1,250 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.73 ล้านล้านวอน)
แม้จะมีกระแสข่าวลือว่า ริปเปิลอาจเข้าซื้อบริษัทผู้ออกเหรียญเสถียรภาพซีเคิล(Circle) มูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ แต่การ์ลิงเฮาส์ออกมายืนยันว่า ไม่เป็นความจริง
นักวิเคราะห์หลายรายระบุว่า ทิศทางราคาของริปเปิลในอนาคตจะขึ้นอยู่กับการขยายธุรกิจของบริษัทและความเป็นไปได้ในการอนุมัติ ETF สำหรับ XRP เป็นหลัก โดยข้อมูลจากโพลิแมร์เก็ต(Polymarket) คาดการณ์ว่า ความเป็นไปได้ที่ ETF ของ XRP จะได้รับการอนุมัติภายในสิ้นปี 2025 นั้นอยู่ที่ราว ‘94%’
ความคิดเห็น 0