บิตคอยน์(BTC) พุ่งขึ้น 3.5% ทะยานเข้าใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่มูลค่าตลาดรวมของสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 208.5 ล้านล้านวอน (ราว 150,000 ล้านดอลลาร์) ภายในวันเดียว การปรับตัวขึ้นดังกล่าวมีปัจจัยสนับสนุนหลายประการ ตั้งแต่ข้อตกลงทางการค้าระหว่าง *สหรัฐฯ-เวียดนาม*, การเพิ่มขึ้นของสภาพคล่อง, เงินทุนไหลเข้าตลาด ETF และการถูกบังคับปิดโพซิชั่นของฝั่งขาย(short squeeze)
ปัจจัยที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในรอบนี้คือการประกาศของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* เกี่ยวกับข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และเวียดนาม โดยเวียดนามยินดีที่จะยกเลิกภาษีนำเข้าทั้งหมดจากสินค้าสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ยังคงเรียกเก็บภาษี 20-40% สำหรับสินค้านำเข้าจากเวียดนาม การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวถูกมองว่าเป็นความพยายามในการลดความไม่สมดุลทางการค้าของทรัมป์ ซึ่งส่งเสริมความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์ และช่วยลดความกังวลต่อการไหลออกของเงินจากตลาดคริปโต
ข้อมูลจากทางฝั่งเศรษฐกิจยังสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้น โดย *M2* หรือปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 4.5% ในเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ราว 21.94 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.5 เควินวอน) ซึ่งนับเป็นการเติบโตต่อเนื่อง 19 เดือน ข้อมูลทางประวัติการณ์ชี้ว่าทุกครั้งที่ปริมาณเงินเพิ่มขึ้น ราคาของบิตคอยน์มักจะตอบสนองในเชิงบวกภายในไม่กี่เดือนถัดมา
ตลาด ETF คริปโตในสหรัฐฯ ก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน โดยเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม เท่ากับมียอดเงินไหลเข้าสู่ *ETF บิตคอยน์สปอต* รวมกว่า 566.9 พันล้านวอน (ราว 407.8 ล้านดอลลาร์) โดยอันดับหนึ่งคือ *ฟิเดลิตี* ที่ดึงดูดเงินทุนได้ประมาณ 255.7 พันล้านวอน (184 ล้านดอลลาร์) ตามด้วย *อาร์ค อินเวสต์* ราว 115.3 พันล้านวอน (83 ล้านดอลลาร์) และ *บิตไวส์* ที่ได้ 90.2 พันล้านวอน (64.9 ล้านดอลลาร์) สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ด้านตลาดอนุพันธ์ แรงบีบฝั่งขายหรือ *short squeeze* กลายเป็นปัจจัยซัพพอร์ตอีกประการ โดยในช่วงเวลาเดียวกัน มีการปิดโพซิชั่น short มูลค่ากว่า 345.4 พันล้านวอน (248.85 ล้านดอลลาร์) คิดเป็น 85% ของมูลค่าการปิดโพซิชั่นทั้งหมด รองลงมาคือฝั่ง long มูลค่าเพียง 63.8 พันล้านวอน (45.8 ล้านดอลลาร์) เท่านั้น แสดงให้เห็นถึงความเร่งรีบของนักลงทุนฝั่งขายที่ต้องปิดโพซิชั่นเพื่อจำกัดความเสียหาย
นอกจากบิตคอยน์แล้ว สกุลเงินดิจิทัลหลักอื่นๆ อย่าง *อีเธอเรียม(ETH)*, *ริปเปิล(XRP)*, *โซลานา(SOL)* และ *คาร์ดาโน(ADA)* ก็ปรับตัวขึ้นพร้อมกัน อีเธอเรียมเพิ่มขึ้นกว่า 5% มาอยู่ที่ประมาณ 3.59 ล้านวอน (2,588 ดอลลาร์) ในขณะที่ริปเปิลกับโซลานาก็ปรับขึ้นราว 5% โดยมี *มิมคอยน์* อย่าง *โดชคอยน์(DOGE)* และ *ชิบะอินุ(SHIB)* ที่พุ่งขึ้นระหว่าง 5-8% ดึงดูดกระแสเก็งกำไรจากนักลงทุนรายย่อย
ในบรรดาสินทรัพย์ที่มีการปรับตัวแรงประจำวัน *บองค์(BONK)* กระโดดขึ้นถึง 22.36% แตะระดับ 0.0000172 ดอลลาร์ ตามด้วย *โดชวิธแฮต(WIF)* ขึ้น 18.4% และ *เซเลสเทีย(TIA)* ที่เพิ่มขึ้น 15.75% มาอยู่ที่ 1.63 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม บางเหรียญอย่าง *ฟอร์ม(FORM)*, *เฟอร์ซีเพนกวิน* และ *บิตคอยน์แคช(BCH)* กลับได้รับแรงขายและมีการปรับฐานเล็กน้อย
ภาพรวมของการปรับขึ้นครั้งนี้สะท้อนถึงการทำงานร่วมของหลากหลายปัจจัย ทั้งด้านนโยบายต่างประเทศของ *ทรัมป์*, สัญญาณการขยายตัวของสภาพคล่อง และแรงซื้อจากทั้ง ETF และตลาดอนุพันธ์ *ความคิดเห็น* มองว่านี่อาจไม่ใช่แค่การดีดตัวชั่วคราว แต่เป็นสัญญาณที่ชี้ถึงการเปลี่ยนแนวโน้มสู่ช่วงขาขึ้นในระยะกลางถึงยาว อย่างไรก็ตาม ทิศทางต่อจากนี้ยังต้องพิจารณาควบคู่ไปกับตัวเลขเศรษฐกิจและท่าทีของหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง
ความคิดเห็น 0