โครงการมิดาส (Midas Project) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรด้านการเฝ้าระวังปัญญาประดิษฐ์ในสหรัฐฯ ได้ยื่นคำร้องต่อกรมสรรพากรสหรัฐฯ (IRS) เพื่อขอให้ตรวจสอบ โอเพนเอไอ(OpenAI) ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มแชตบอตชื่อดังอย่าง แชตจีพีที(GPT) โดยประเด็นหลักคือข้อกังวลเรื่อง **ความเสี่ยงทางกฎหมายในการรักษาสถานะไม่แสวงหากำไร** รวมถึงมีความเป็นไปได้ในการละเมิดกฎหมายภาษี
เมื่อวันที่ 6 ที่ผ่านมา โครงการมิดาสเปิดเผยผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการว่า โอเพนเอไอได้ *ละทิ้งกลไกความปลอดภัยทางจริยธรรมที่เคยยึดถือ* และเลือกโครงสร้างการดำเนินงานที่ *ขัดแย้งกับวัตถุประสงค์ขององค์กรไม่แสวงหากำไร* นอกจากนี้ จากการวิเคราะห์เอกสารภายใน พบว่า แซม อัลต์แมน(Sam Altman) ซีอีโอของโอเพนเอไอ มีบทบาทซ้อนทั้งในฝั่งบริษัทที่แสวงหากำไรและไม่แสวงหากำไร ซึ่งอาจเปิดช่องให้แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวจากตำแหน่งดังกล่าว
ในคำร้องยังระบุอย่างชัดเจนว่า อัลต์แมนดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการของฝ่ายองค์กรไม่แสวงหากำไร ขณะเดียวกันก็เป็นซีอีโอของโอเพนเอไอในฝั่งธุรกิจ จึงอาจนำไปสู่ **ปัญหา ‘ผลประโยชน์ทับซ้อน’ ที่ขัดต่อกฎหมายภาษีของสหรัฐฯ** โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่าอัลต์แมนเคยลงทุนส่วนตัวในบริษัทภายนอกที่ต่อมาได้ทำความร่วมมือเชิงพาณิชย์กับโอเพนเอไอ ซึ่งอาจก่อให้เกิดรายได้ส่วนตัวหลายร้อยล้านบาท
โครงการมิดาสยังตั้งข้อสังเกตว่า สมาชิกคณะกรรมการบริหารหลายรายของโอเพนเอไออาจมีผลประโยชน์ทางการเงินโดยตรงกับองค์กร และไม่อาจตัดโอกาสไปได้ว่าทุนสาธารณะ เช่น เงินบริจาค อาจถูก *นำไปใช้เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจแสวงหากำไร* ซึ่งสะท้อนถึงโครงสร้างทางการเงินของโอเพนเอไอที่อาจมุ่งเน้นผลประโยชน์ของนักลงทุนและบุคคลเฉพาะแทนที่จะเป็นผลประโยชน์สาธารณะผ่านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
ทั้งนี้ โครงการมิดาสก่อตั้งขึ้นเมื่อต้นปี 2024 โดยมีพันธกิจในการตรวจสอบและเปิดเผยพฤติกรรมของบริษัทเทคโนโลยี AI ชั้นนำ เพื่อให้แน่ใจว่า **เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จะไม่กลายเป็นเครื่องมือแสวงหากำไรของบางกลุ่ม แต่สามารถส่งผลดีต่อสังคมโดยรวม** ตามความตั้งใจดั้งเดิมของการพัฒนาเทคโนโลยีนี้
ความคิดเห็น 0