ราคา *บิตคอยน์(BTC)* พุ่งทะลุระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 123,000 ดอลลาร์ หรือราว 4.5 ล้านบาท เมื่อวันที่ 14 ตามเวลาท้องถิ่น สะท้อนถึงการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในตลาด อย่างไรก็ตาม บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชน *คริปโตควอนต์(CryptoQuant)* ระบุว่า *บิตคอยน์ยังไม่เข้าสู่ภาวะร้อนแรงเกินไป* พร้อมชี้ว่าแนวโน้มขาขึ้นมีโอกาสดำเนินต่อ
คริปโตควอนต์ให้เหตุผลว่า การเคลื่อนไหวของตลาดในรอบนี้แตกต่างจากการปรับขึ้นก่อนหน้านี้ในเดือนมีนาคมและธันวาคม ที่มักตามมาด้วยการขายทำกำไรระยะสั้น โดยรอบนี้มีลักษณะของการ 'คงเสถียร' มากกว่า บ่งชี้จากดัชนี *UTXO Age Band* ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสัดส่วนของเหรียญที่ถูกถือครองไม่เกิน 1 วันถึง 1 สัปดาห์ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ไม่ได้แสดงสัญญาณของแรงขายเร็ว ความสงบในตัวเลขนี้อาจสะท้อนถึงทัศนคติของนักลงทุนที่เริ่มมองบิตคอยน์เป็น *สินทรัพย์ระยะยาว* มากกว่าการเก็งกำไรแบบฉาบฉวย
ขณะที่แรงขายระยะสั้นลดลง ความเชื่อมั่นของนักลงทุนก็ผ่อนคลายลงตามไปด้วย และที่สำคัญคือ *สถาบันขนาดใหญ่เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น* คริปโตควอนต์เผยว่า ระหว่างวันที่ 7 ถึง 12 กรกฎาคม มีบริษัทมากถึง 29 แห่งเพิ่มการถือครองบิตคอยน์ พร้อมทั้งมีรายงานการเคลื่อนไหวของทรัพย์สินในรูปแบบทรัสต์มากถึง 80 ฉบับ ในช่วงเวลาดังกล่าว เฉพาะในตลาด ETF บิตคอยน์แบบสปอตของสหรัฐ มีเงินไหลเข้าสูงถึง 2.7 พันล้านดอลลาร์ มากกว่าปริมาณเหรียญที่ถูกขุดใหม่ ซึ่งเป็นสัญญาณสะท้อน 'อุปสงค์ล้นอุปทาน'
ETF ที่ได้รับความสนใจสูงสุดคือ *IBIT ของแบล็คร็อก* ซึ่งมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร(AUM) ทะลุ 8 หมื่นล้านดอลลาร์ เป็นสถิติที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ ETF บ่งชี้ถึง *ความต้องการจากกลุ่มสถาบันที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ*
ด้วยแรงขายที่ลดลง ความมั่นใจของนักลงทุนระยะยาวที่แน่นแฟ้นขึ้น และเม็ดเงินจากฝั่งสถาบันที่ไหลเข้ามาต่อเนื่อง *บิตคอยน์* จึงยังมีโอกาส *เติบโตอีกมาก* ความคิดเห็นหนึ่งระบุว่าตลาดคริปโตในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ อาจไม่เป็นไปตามวงจรเดิมที่มักจะผันผวนแรง แต่จะค่อยๆ ขึ้นในรูปแบบ *เสถียรภาพใหม่* ที่น่าจับตามอง
ความคิดเห็น 0