กฎหมายใหม่เกี่ยวกับ ‘สเตเบิลคอยน์’ ในสหรัฐอเมริกาที่เพิ่งประกาศใช้ อาจกลายเป็นแรงผลักดันครั้งใหญ่ให้กับอีเธอเรียม(ETH) และระบบนิเวศของดีไฟน์(DeFi) ตามการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากแอปพลิเคชันดีไฟน์ส่วนใหญ่นั้นถูกสร้างขึ้นบนเครือข่ายอีเธอเรียม จึงคาดว่ากฎหมายนั้นจะสนับสนุน ‘อีเธอเรียม’ อย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามใน ‘กฎหมาย GENIUS’ ซึ่งมีสาระสำคัญคือการ ‘ห้ามออกสเตเบิลคอยน์แบบให้ดอกเบี้ย’ หรือที่เรียกว่า ‘สเตเบิลคอยน์แบบผลตอบแทน’ โดยเด็ดขาด ภายใต้กฎหมายนี้ นักลงทุนทั้งรายย่อยและสถาบันจะไม่สามารถฝากหรือปล่อยกู้สเตเบิลคอยน์เพื่อแลกกับดอกเบี้ยได้อีกต่อไป ทั้งนี้ สเตเบิลคอยน์ประเภทดังกล่าวมักออกแบบให้สามารถให้ผลตอบแทนผ่านกลไกดีไฟน์ เช่น การสเตคเหรียญหรือการปล่อยกู้ในเครือข่ายบล็อกเชน
นิค พักริน(Nic Puckrin) นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง มองว่าการยุติบทบาทของสเตเบิลคอยน์แบบผลตอบแทนนั้น ถือเป็น ‘สัญญาณบวกอย่างยิ่ง’ ต่อดีไฟน์บนเครือข่ายอีเธอเรียม พร้อมให้ความเห็นว่า “นักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนจะถูกผลักดันให้หันมาใช้ดีไฟน์มากขึ้น”
นอกจากนี้ ดีไฟน์ไม่ได้เป็นเพียงช่องทางการสร้างผลกำไร แต่ยังได้รับความสนใจในฐานะแนวทางทดแทนสกุลเงินที่เสื่อมค่าจากเงินเฟ้อด้วย คริสโตเฟอร์ เพอร์กินส์(Christopher Perkins) ประธานบริษัท CoinFund กล่าวว่า “ดอลลาร์มีแต่จะเสื่อมค่าและไม่ได้ให้ดอกเบี้ย ดังนั้นพื้นที่ที่สามารถสร้างผลตอบแทนและรักษามูลค่าได้ก็มีเพียงดีไฟน์” พร้อมเสริมด้วยถ้อยคำที่น่าจับตาว่า “ฤดูกาลของสเตเบิลคอยน์ใกล้สิ้นสุดลง และแทนที่ด้วยฤดูกาลของดีไฟน์”
ความคิดเห็น 0