ไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้นำของไมโครสแตรทิจี(MicroStrategy) ออกมาเปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะซื้อบิตคอยน์(BTC) เพิ่มอีกครั้ง โดยประกาศดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังจากที่บริษัทถือครองบิตคอยน์รวมมูลค่ากว่า *ประมาณ 1,004 ล้านล้านวอน (714 พันล้านดอลลาร์)*
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา ไมโครสแตรทิจีได้เข้าซื้อบิตคอยน์เพิ่มอีก 4,225 BTC หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ *656.2 พันล้านวอน (472.5 ล้านดอลลาร์)* ส่งผลให้ยอดรวมการถือครองบิตคอยน์ของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 601,550 BTC ซึ่งตามมูลค่าตลาดปัจจุบันนั้น คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ *1,004.46 ล้านล้านวอน (714 พันล้านดอลลาร์)*
จากข้อมูลของ SaylorTracker ฐานข้อมูลที่ติดตามการเคลื่อนไหวของเซย์เลอร์ ระบุว่า ไมโครสแตรทิจีทำกำไรจากการลงทุนในบิตคอยน์ได้แล้วประมาณ *3.9615 ล้านล้านวอน (285 พันล้านดอลลาร์)* หรือคิดเป็นผลตอบแทนประมาณ 66.5% ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาการลงทุนในบิตคอยน์ของภาคธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด
จากท่าทีล่าสุดของเซย์เลอร์ สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะเดินหน้าซื้อบิตคอยน์เพิ่มอีกในอนาคต โดยตลอดช่วงที่ผ่านมา เขามักแสดงความเห็นสนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์ พร้อมกับผลักดันแนวคิดที่ว่าบิตคอยน์คือ ‘ทองคำดิจิทัล’ ซึ่งมีบทบาทในการสร้างกระแสในตลาดอย่างต่อเนื่อง
*ความคิดเห็น* ของผู้เชี่ยวชาญในตลาดระบุว่า แผนนี้ของไมโครสแตรทิจีช่วยสร้าง ‘เสถียรภาพต่ออุปสงค์’ ของบิตคอยน์ และสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มที่องค์กรขนาดใหญ่เริ่มนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการเงินระยะยาวมากขึ้นเรื่อยๆ
ความคิดเห็น 0