เครือข่ายของอีเธอเรียม(ETH) กำลังเข้าสู่ช่วงการเปลี่ยนแปลงสำคัญ เมื่อผู้ตรวจสอบธุรกรรมบางส่วนเริ่มออกมาสนับสนุนการปรับเพิ่ม ‘ก๊าซลิมิต’ (gas limit) เป็น 45 ล้านหน่วย เพื่อเพิ่มความสามารถในการประมวลผล ส่งผลให้เกิดความคาดหวังเรื่อง *การขยายเครือข่าย* และ *การลดค่าธรรมเนียมธุรกรรม* ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ 22 (เวลาท้องถิ่น) จากข้อมูลของ Etherscan พบว่า ปริมาณก๊าซลิมิตของอีเธอเรียมเพิ่มขึ้นเกินกว่า 37.3 ล้านหน่วย เป็นการเติบโตประมาณ 3% เทียบกับไม่กี่วันก่อนหน้านี้ และมีบางบล็อกที่เสนอระดับที่สูงกว่านี้แล้ว ถือเป็นการขยับขึ้นที่น่าจับตามองมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นก๊าซลิมิตถูกปรับขึ้นจากระดับ 30 ล้านหน่วย เป็น 36 ล้านหน่วย
โดยทั่วไป ก๊าซลิมิตมีบทบาทกำหนด *ปริมาณธุรกรรมสูงสุดที่สามารถรวมไว้ในแต่ละบล็อก* หากค่าดังกล่าวสูงขึ้น ความสามารถในการประมวลผลธุรกรรมของเครือข่ายก็จะเพิ่มตามไปด้วย ผลลัพธ์คือ ความล่าช้าของธุรกรรมลดลง และ *ค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายโดยผู้ใช้ก็มีแนวโน้มถูกลง* ดังนั้นการเพิ่มก๊าซลิมิตจึงถูกมองว่าเป็นสัญญาณบวกทั้งต่อผู้ใช้งานทั่วไปและนักพัฒนาแอปพลิเคชันกระจายศูนย์(DApp)
หากข้อเสนอการเพิ่มก๊าซลิมิตเป็น 45 ล้านหน่วยได้รับการอนุมัติจริง อาจเป็นก้าวสำคัญในการแก้ไขปัญหาคอขวดด้าน ‘ความสามารถในการขยายตัวของอีเธอเรียม’ อย่างไรก็ตาม ต้องผ่านการเห็นชอบร่วมกันของโนดในเครือข่าย และมีความมั่นใจในเรื่องเสถียรภาพของระบบ จึงต้องอาศัยการเตรียมพร้อมทางเทคนิค และการประสานงานภายในคอมมูนิตี้
*ความคิดเห็น* จากผู้เชี่ยวชาญมองว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของอีเธอเรียมในการยกระดับศักยภาพบนเลเยอร์ 1 ซึ่งเป็นแนวทางระยะยาวที่อาจส่งผลต่อแนวโน้มของตลาดคริปโตในภาพรวมได้ในอนาคต
ความคิดเห็น 0