บริษัทคริปโตที่มีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับประธานาธิบดีทรัมป์อย่าง *เวิลด์ ลิเบอร์ตี ไฟแนนเชียล (World Liberty Financial หรือ WLF)* เริ่มสร้างความโดดเด่นในตลาดอีกครั้ง หลังรายงานว่ามีการซื้อสะสมอีเธอเรียม(ETH) อย่างจริงจัง ล่าสุด บริษัทได้เพิ่มการถือครองอีเธอเรียมอีก 861 เหรียญ ส่งผลให้ยอดรวมของสินทรัพย์คริปโตนี้เพิ่มขึ้นเป็น 70,143 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 251 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3,488 ล้านบาท โดยขณะนี้ WLF มีกำไรยังไม่ขายที่มากถึง 26 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 361 ล้านบาท
ข้อมูลจาก Lookonchain เมื่อวันที่ 16 ระบุว่า WLF ได้เริ่มสะสมอีเธอเรียมตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2024 ถึงมีนาคม 2025 ด้วยเงินลงทุนรวม 214.9 ล้านดอลลาร์ (ราว 2,987 ล้านบาท) ที่ราคาเฉลี่ยเหรียญละ 3,243 ดอลลาร์ แม้จะซื้อไปแล้วจำนวนมาก บริษัทไม่ได้หยุดแค่นั้น วันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา WLF ได้ซื้อเพิ่มอีก 1,531 เหรียญที่ราคา 3,266 ดอลลาร์ และไม่นานนักก็ซื้ออีกล็อตหนึ่งที่จำนวนและราคาดังกล่าวเช่นกัน
นอกจากนี้ ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง พวกเขากลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้งด้วยมูลค่าการซื้อ 3 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 417 ล้านบาท และเพิ่มการถือครองอีเธอเรียมอีก 861 เหรียญ ทำให้ยอดรวมทะลุ 70,000 เหรียญอย่างแข็งแกร่ง ปัจจุบัน อีเธอเรียมปรับตัวเพิ่มขึ้นชัดเจน โดยในช่วง 24 ชั่วโมงล่าสุด ราคาได้พุ่งขึ้น 8.5% แตะระดับ 3,629 ดอลลาร์ (ประมาณ 504,000 บาท)
ราคาที่ดีดกลับครั้งนี้ได้ทะลุราคาเฉลี่ยในการซื้อของ WLF ที่ 3,249 ดอลลาร์แล้ว ทำให้บริษัทเข้าสู่ช่วงทำกำไรอย่างเป็นทางการ โดยในช่วงเดือนที่ผ่านมา อีเธอเรียมปรับตัวขึ้นถึง 43% หากนับเฉพาะสัปดาห์ล่าสุด โตถึง 22.2% และในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา พุ่งขึ้นอย่างน่าทึ่งที่ 126.2% แม้จะยังไม่สามารถทำลายสถิติสูงสุดเดิมที่ 4,878 ดอลลาร์ ซึ่งตั้งไว้เมื่อพฤศจิกายนปี 2021 แต่แนวโน้มฟื้นตัวที่แข็งแกร่งกำลังดึงดูดความสนใจของนักลงทุนสถาบันอย่างชัดเจน
นอกจาก WLF แล้ว การเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกันยังปรากฏในบริษัทจดทะเบียนอย่าง *ชาร์ปลิงก์ เกมมิ่ง (SharpLink Gaming)* ซึ่งเป็นบริษัทในตลาด NASDAQ โดยบริษัทนี้เพิ่งเพิ่มการถือครองอีเธอเรียมเกิน 280,000 เหรียญ แซงหน้าปริมาณที่ถือครองโดยมูลนิธิอีเธอเรียมเสียอีก โดยใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเพียงวันเดียว พวกเขาคว้าอีเธอเรียมอีก 32,892 เหรียญ ทำให้มียอดรวมทะลุ 313,000 เหรียญ หรือคิดเป็นมูลค่าราว 1.1 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.52 หมื่นล้านบาท)
นอกจากนี้ Lookonchain ยังรายงานว่าในช่วง 10 วันที่ผ่านมา มีวอลเล็ตใหม่ 2 บัญชีที่สร้างจากแพลตฟอร์ม *คราเคน* และ *ฟัลคอนเอ็กซ์* ได้สะสมอีเธอเรียมรวม 206,415 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 745 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.03 หมื่นล้านบาท ซึ่งนำไปสู่ข้อสังเกตว่าการเข้าซื้อจำนวนมากเหล่านี้เป็นสัญญาณของการเก็บไว้ระยะยาว
ในด้านของผลิตภัณฑ์การลงทุน อีเธอเรียมในรูปแบบ ETF ก็มีการตอบรับอย่างอบอุ่นเช่นกัน โดย *แบล็คร็อก (BLK)* ได้เปิดตัวกองทุน ETHA ETF ซึ่งในช่วง 2 วันที่ผ่านมาทำสถิติการไหลเข้าของเงินทุนต่อเนื่อง ล่าสุดวันเดียวสามารถดึงเงินเข้ากองทุนได้ถึง 546 ล้านดอลลาร์ หรือราว 7,599 ล้านบาท ทำให้ยอดการไหลเข้าสะสมตลอด 10 วัน ทะลุ 2.1 พันล้านดอลลาร์ไปเรียบร้อยแล้ว
*ความคิดเห็น:* ท่ามกลางภาพรวมของตลาดที่เต็มไปด้วยแรงซื้อจากนักลงทุนรายใหญ่ การเคลื่อนไหวเชิงรุกของบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีทรัมป์ ดูเหมือนจะสะท้อนแนวโน้มใหม่ของ *ความต้องการอีเธอเรียมอย่างเป็นระบบและมีกลยุทธ์* แสดงให้เห็นว่าความสนใจในสินทรัพย์ดิจิทัลจากกลุ่มสถาบันกำลังก้าวเข้าสู่ช่วงสำคัญอีกครั้ง
ความคิดเห็น 0