ตลาดคริปโตในสหรัฐฯ กำลังกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังบริษัทรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง *บิตโก(BitGo)* เดินหน้าวางแผนเข้าตลาดหุ้น พร้อมกระแสเงินลงทุนในกองทุนคริปโตที่ทำสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันตลาดเอ็นเอฟที(NFT) ก็กลับมาน่าสนใจอีกครั้งด้วยการพุ่งแรงของมูลค่ารวม
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) บิตโกได้ยื่นเอกสารคำขอการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป (IPO) แบบลับต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) โดยเอกสารดังกล่าวเกี่ยวข้องกับหุ้นสามัญประเภท A ซึ่งยังไม่มีการระบุจำนวนหุ้นและช่วงราคารายการขาย และยังไม่ปรากฏบนระบบเปิดเผยข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ของ SEC (EDGAR)
การที่ *บิตโก* เตรียมจดทะเบียนในตลาดหุ้นสะท้อนการเปลี่ยนแปลงสำคัญใน ‘อุตสาหกรรมคริปโต’ ที่กำลังหาทางเข้าสู่ภาคการเงินกระแสหลัก โดยข้อมูลจาก Bloomberg ระบุว่า บิตโกมีมูลค่าสินทรัพย์ที่ได้รับฝากรวมกว่า *1 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 139 ล้านล้านวอน)* ณ ครึ่งปีแรกของ 2025 เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก *6 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 83 ล้านล้านวอน)* เมื่อต้นปี
นอกจากนี้ บิตโกยังขยายการดำเนินธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศ โดยได้รับอนุมัติจาก *กฎระเบียบ MiCA* ฉบับใหม่ของสหภาพยุโรป ทำให้สามารถให้บริการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลทั่ว EU ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายตลาดระดับโลก
ในอีกด้านหนึ่ง กองทุนลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีการไหลเข้าของเงินทุนสุทธิสูงถึง *4.4 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.1 ล้านล้านวอน)* ภายในสัปดาห์เดียว ถือเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ตลาดเริ่มมีเงินไหลเข้าอย่างต่อเนื่องถึง 14 สัปดาห์ ทำให้ยอดรวมเงินลงทุนตลอดปีนี้พุ่งแตะ *2.7 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 37.5 ล้านล้านวอน)*
สินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ อีเธอเรียม(ETH) ที่มีเงินไหลเข้าสู่กองทุนอิงกับอีทีพีอย่างรวดเร็ว รวมมูลค่าประจำปี 2025 ที่ *6.2 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 8.6 ล้านล้านวอน)* ซึ่งแซงหน้าตลอดทั้งปี 2024 แล้ว โดยเฉพาะในสัปดาห์ล่าสุดที่มีเงินไหลเข้าเพิ่มขึ้นเกินสองเท่า อยู่ที่ *2.12 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.9 ล้านล้านวอน)* ถือเป็นการทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง
สภาพตลาดที่คึกคักนี้ยังสัมพันธ์กับแนวโน้มราคาบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ที่ปรับตัวขึ้น โดย *บิตคอยน์* ทำสถิติสูงสุดแตะ *1.22 แสนดอลลาร์ (ประมาณ 16.9 ล้านบาท)* เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ก่อนปรับฐานเล็กน้อยและปิดสัปดาห์ที่ประมาณ *1.2 แสนดอลลาร์ (ประมาณ 16.6 ล้านบาท)* ด้าน *อีเธอเรียม* ก็ทะลุระดับ *3,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.8 แสนบาท)* แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวหลังจากอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ตลาด *NFT* ก็มีแนวโน้มฟื้นตัว โดยเฉพาะในกลุ่มคอลเลกชันบลูชิปที่เริ่มได้รับความสนใจจากนักลงทุนอีกครั้ง ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมของ NFT พุ่งขึ้นถึง *21% ในสัปดาห์เดียว* สะท้อนว่าอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลโดยรวมกำลังกลับเข้าสู่ช่วงขาขึ้น ควบคู่กับการเข้าสู่ระบบที่อยู่ภายใต้กรอบกำกับดูแลอย่างเป็นทางการ
ความคิดเห็น: การเคลื่อนไหวเหล่านี้สะท้อนว่าคริปโตกำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยน ซึ่ง ‘การเปิดเผย โปร่งใส และการเข้าระบบ’ กลายเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตในระยะถัดไป
ความคิดเห็น 0