โทโทโร่คอยน์(TON) ร่วงลงกว่า 5% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สร้างความกังวลให้แก่นักลงทุน อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์สายออนเชนชื่อดัง อาลี มาร์ติเนซ(Ali Martinez) ยังคงเชื่อว่า ‘โทโทโร่คอยน์มีโอกาสพุ่งขึ้นแตะ 5.30 ดอลลาร์’ (ประมาณ 7,367 บาท) ได้ หากสามารถรักษาระดับแนวรับสำคัญไว้ได้ ท่ามกลางกระแสการขายในตลาดอัลต์คอยน์โดยรวม ตัวชี้วัดทางเทคนิคของโทโทโร่คอยน์ยังคงแสดง ‘สัญญาณเชิงบวก’
ราคาของโทโทโร่คอยน์ล่าสุดอยู่ที่ 3.13 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,340 บาท) ลดลง 5.07% เมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า โดยต่ำกว่าระดับสูงสุดในวันเดียวกันที่ 3.26 ดอลลาร์ อยู่ 13 เซนต์ มาร์ติเนซกล่าวว่า “หากโทโทโร่คอยน์สามารถยืนได้เหนือแนวรับ 2.87 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,032 บาท) โครงสร้างการขึ้นราคายังมีผลต่อเนื่อง และหากปริมาณเทรดเริ่มฟื้นกลับ ราคาสามารถไปแตะระดับ 5.30 ดอลลาร์ ได้”
กระนั้นก็ตาม แรงกดดันจากฝั่งขายอาจยังคงอยู่ต่อไปในระยะสั้น สะท้อนจากการที่ปริมาณซื้อขายลดลงอย่างมากถึง 53.94% เหลือเพียง 336.14 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,671 ล้านบาท) ซึ่งแสดงว่า ‘แรงซื้อในตลาดกำลังหดตัว’ นอกจากนี้ เมื่ออิทธิพลของบิตคอยน์(BTC)ในตลาดเพิ่มขึ้น นักลงทุนจำนวนหนึ่งได้ถอนตัวจากอัลต์คอยน์ สร้างปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ‘Dominance Effect’ ซึ่งส่งผลกระทบต่อโทโทโร่คอยน์ด้วย
ในทางเทคนิค ตัวชี้วัดอย่างดัชนี RSI ของโทโทโร่คอยน์อยู่ที่ระดับ 58.91 อยู่ใน ‘โซนกลาง’ ไม่ถือว่าเข้าเขตซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป ซึ่งบ่งบอกถึง *โอกาสในการปรับตัวสูงขึ้นยังคงมีอยู่* อย่างไรก็ตาม หากมีการเทขายจาก ‘วาฬ’ หรือผู้ถือรายใหญ่ ความเสี่ยงจากการถูกบังคับขาย (liquidation risk) อาจเพิ่มขึ้น
เป้าหมายที่ระดับ 5.30 ดอลลาร์ต้องอาศัยการฝ่าแนวต้านสำคัญหลายระดับ โดยแนวต้านแรกอยู่ที่ช่วง 3.57–3.60 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,963–5,004 บาท) และหากทะลุผ่านได้ จะต้องเจอกับแนวด่านที่ 4.00 ดอลลาร์ (ประมาณ 5,560 บาท) ซึ่งเป็นจุดกำหนดแนวโน้มขาขึ้นถัดไป มาร์ติเนซระบุว่า “หากผ่านแนวต้านเหล่านี้ไปได้ ขาขึ้นถัดไปจะเริ่มต้นขึ้นอย่างชัดเจน”
ก่อนหน้านี้ในเดือนมิถุนายน โทโทโร่คอยน์เคยดีดตัวสั้น ๆ หลังมีข่าวว่า ผู้มีส่วนร่วมในระบบนิเวศของโทโทโร่คอยน์ได้รับวีซ่าทองคำ (Golden Visa) ระยะเวลา 10 ปีจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAE) สร้าง *ความคาดหวังว่า หากเหตุการณ์บวกในระดับนี้เกิดขึ้นอีก ก็อาจจุดชนวนให้เกิดโมเมนตัมขาขึ้นอีกครั้ง*
ณ เวลานี้ โทโทโร่คอยน์กำลังอยู่ในช่วง ‘พักฐานระยะสั้น’ ทว่า ‘ตัวชี้วัดทางเทคนิคที่เป็นกลาง และการวิเคราะห์ในเชิงบวกจากผู้เชี่ยวชาญ’ ทำให้ยังมีความหวังว่า ราคาจะสามารถฟื้นตัวในกลางถึงระยะยาว ทั้งนี้ ตัวแปรสำคัญที่จะชี้ชะตาการลงทุนยังขึ้นอยู่กับ การฟื้นตัวของปริมาณซื้อขายในระยะสั้น และแนวโน้มความเชื่อมั่นโดยรวมของตลาดคริปโตในภาพใหญ่
ความคิดเห็น 0