‘สเตเบิลคอยน์’กำลังถูกจับตามองว่าจะมีบทบาทสำคัญในระบบการชำระเงินแบบกระจายศูนย์มากขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนำมาใช้งานร่วมกับ ‘เครือข่ายไลท์นิ่ง(Lightning Network)’ ซึ่งเป็นโซลูชันการปรับขนาดแบบเลเยอร์ 2 สำหรับบิตคอยน์(BTC) ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมคริปโตมองว่า ปริมาณการทำธุรกรรมด้วยสเตเบิลคอยน์ผ่านไลท์นิ่งจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อันเป็นผลจากความต้องการของทั้งนักลงทุนรายย่อยและรายใหญ่ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เกรแฮม ครีเซก(Graham Krizek) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของโวลเทจ(Voltage) ผู้ให้บริการชำระเงินผ่านไลท์นิ่ง เปิดเผยกับ Cointelegraph ว่า ตัวเขาคาดการณ์ว่า ไลท์นิ่งสามารถเข้ามารองรับการทำธุรกรรมของ ‘สเตเบิลคอยน์ทั่วโลกได้ถึง 5% ภายในปี 2028’ โดยอ้างอิงจากมูลค่าการทำธุรกรรมรายวันของสเตเบิลคอยน์ที่ปัจจุบันอยู่ราว 180,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 250.2 ล้านล้านวอน เท่ากับว่าการใช้งานไลท์นิ่งอาจขยายตัวไปถึง 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 12.51 ล้านล้านวอนเลยทีเดียว
ครีเซกยังชี้ด้วยว่า ปัจจัยเร่งสำคัญจะมาจากการเริ่มบังคับใช้กฎหมายควบคุมการออกสเตเบิลคอยน์ทั้งในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก โดยเฉพาะชื่อของ ‘ร่างกฎหมาย GENIUS’ ที่กำลังรอการลงนามโดยประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรมครั้งใหญ่
แม้ปัจจุบันกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสเตเบิลคอยน์บนไลท์นิ่งจะยังไม่มากนัก แต่ครีเซกมองว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะเริ่มเห็นการเติบโตที่ชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่าผู้ออกสเตเบิลคอยน์รายใหญ่ เช่น เทเดอร์(USDT) และเซอร์เคิล(USDC) ยังไม่เข้าสู่ระบบของไลท์นิ่งอย่างเต็มรูปแบบ จึงมี “ช่องว่างที่เปิดกว้าง” สำหรับการเติบโตในแง่ของปริมาณธุรกรรม
แนวโน้มดังกล่าวได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมด้วยการขยับตัวของเทเดอร์ ซึ่งในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้ประกาศว่า จะนำเทเดอร์เข้าสู่ไลท์นิ่ง เน็ตเวิร์กบนระบบนิเวศของบิตคอยน์โดยตรง ต่อเนื่องด้วยความเคลื่อนไหวของไลท์นิ่ง แล็บส์ ที่ในเดือนมิถุนายนได้เปิดตัว Taproot Assets 0.6 ซึ่งถือเป็นการปูทางให้เกิด ’โครงสร้างพื้นฐานด้าน FX แบบกระจายอำนาจ’ บนไลท์นิ่ง สำหรับรองรับการทำธุรกรรมสเตเบิลคอยน์ได้โดยตรง
เปาโล อาร์โดอิโน(Paolo Ardoino) ซีอีโอของเทเดอร์ ให้ความเห็นว่า “รูปแบบการแชร์สถานะของบล็อกเชนทั่วโลกมีข้อจำกัดด้านความสามารถในการขยายตัวอยู่แล้ว” และกล่าวย้ำว่า ‘ไลท์นิ่ง คือโซลูชันที่ดีที่สุด’ สำหรับรองรับการชำระเงินด้วยสเตเบิลคอยน์ในระดับมหภาค โดยเขาได้แสดงความเห็นในบทสัมภาษณ์ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาเพิ่มเติมว่า “เทเดอร์บนเครือข่ายไลท์นิ่ง คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการทำธุรกรรมขนาดใหญ่ด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ”
ในมุมมองของอุตสาหกรรมคริปโต ความสนใจในสเตเบิลคอยน์กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว และไลท์นิ่ง เน็ตเวิร์กก็เข้ารับบทบาทเป็นตัวกลางสำคัญสำหรับ ‘โครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินแห่งอนาคต’ ความร่วมมือระหว่างทั้งสองเทคโนโลยีนี้อาจช่วยเร่งให้เกิดการยอมรับระบบการเงินแบบไร้ศูนย์กลางในระดับโลกได้เร็วยิ่งขึ้น ความคิดเห็น: นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ 'อินเทอร์เน็ตของเงิน' ให้เป็นจริงมากขึ้นในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0