คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) ได้เริ่มกระบวนการพิจารณาอย่างเป็นทางการต่อข้อเสนออนุญาต ‘สเตคกิ้ง’ สำหรับกองทุนอีเธอเรียม(ETH) แบบสปอตของแบล็คร็อก ซึ่งอาจเปิดประตูให้ความต้องการอีเธอเรียมในกลุ่มนักลงทุนสถาบันขยายตัวได้ในอนาคต แม้กระบวนการอนุมัติจะยังไม่สิ้นสุด แต่การที่ SEC ยอมรับเอกสารเสนอขอครั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณสำคัญที่อาจเปลี่ยนทิศทางตลาด
แบล็คร็อกร่วมกับแนสแด็ก ได้ยื่นข้อเสนอการปรับโครงสร้างของ ‘กองทุน iShares Ethereum Trust (ETHA)’ ให้ผู้ลงทุนสามารถนำอีเธอเรียมที่ถือครองไปทำการสเตคกับเครือข่าย และนำผลตอบแทนที่ได้มากระจายคืนในกองทุน อย่างเป็นทางการต่อ SEC ตามกรอบข้อบังคับ 19b-4 โดยขั้นตอนถัดไปจะรวมถึงการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
ETHA ถือเป็นกองทุน ETF ที่ใหญ่ที่สุดสำหรับอีเธอเรียมในเชิงมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) และทำสถิติเป็นกองทุนที่เติบโตเร็วอันดับสามในประวัติการณ์ของวงการ โดยใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งปีก็สามารถทะลุ 10,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 13.9 ล้านล้านวอน) ไปแล้ว แม้ในวันที่ 2 กรกฎาคม จะเกิดกระแสเงินไหลออกกว่า 46.9 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 651 พันล้านวอน) แต่หลังจากนั้น ETHA ก็สามารถฟื้นตัวอย่างรวดเร็วด้วยการไหลเข้าสุทธิกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 5.56 ล้านล้านวอน) ภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือน
ด้วยแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันขนาดใหญ่ส่งผลให้ราคาของอีเธอเรียมพุ่งขึ้นกว่า 50% ภายในเวลาเพียงหนึ่งเดือน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับระดับต่ำสุดช่วงต้นเดือนเมษายน ก็พบว่าราคาปรับขึ้นกว่า 150% โดยขณะนี้กำลังเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 4,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 55.6 ล้านวอน)
‘การรับเอกสาร’ ของ SEC ครั้งนี้จึงไม่ควรตีความว่าเป็นเพียงขั้นตอนทางเทคนิค แต่นับเป็นครั้งแรกที่ผู้กำกับดูแลเริ่มเปิดเวทีถกเถียงอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับการบรรจุคุณสมบัติ ‘สเตคกิ้ง’ ลงในโครงสร้างของ ETF ซึ่ง ‘ความคิดเห็น’ มองว่านี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่สะท้อนความพยายามในการแสวงหาสมดุลระหว่างนวัตกรรมและการกำกับดูแล ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของ SEC ต่อข้อเสนอฉบับนี้จะมีผลต่อรูปแบบการยอมรับและการขยายตัวของ ‘อีเธอเรียม ETF แบบมีสเตคกิ้ง’ ทั่วทั้งอุตสาหกรรมคริปโตในอนาคต
ความคิดเห็น 0