คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) อนุมัติอย่างเป็นทางการให้ใช้วิธีการ *ออกและไถ่ถอนแบบคริปโตเป็นหลัก (In-kind creation & redemption)* สำหรับผลิตภัณฑ์ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลแบบ ETF หรือที่เรียกว่า ETP ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในแง่ของการ *เพิ่มประสิทธิภาพของตลาด* เนื่องจากจะเปิดทางให้ผู้ออก ETP และผู้มีสิทธิ์แลกเปลี่ยนสามารถส่งมอบและไถ่ถอนหน่วยลงทุนโดยตรงด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น บิตคอยน์(BTC) หรือ อีเธอเรียม(ETH) แทนการใช้เงินสด
เมื่อวันที่ 2 (เวลาท้องถิ่น) SEC เปิดเผยในแถลงการณ์ว่า ทางคณะกรรมการได้อนุญาตการใช้วิธีดังกล่าวกับ ETF ที่อ้างอิงสินทรัพย์จริงของบิตคอยน์และอีเธอเรียมที่ได้รับการอนุมัติก่อนหน้านี้ โดยจะช่วยให้ผู้เข้าร่วมตลาดสามารถบริหารต้นทุนได้ดียิ่งขึ้นพร้อมเพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินการ นักลงทุนอย่าง พอล แอทกินส์(Pol Atkins) กรรมาธิการของ SEC กล่าวว่า “SEC กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ และการสร้างกรอบกำกับที่เหมาะสมกับตลาดคริปโตคือสิ่งที่ผมให้ความสำคัญในฐานะกรรมาธิการ”
หัวใจสำคัญของนโยบายใหม่นี้คือ การที่นักลงทุน ETF สามารถรับหรือคืนหน่วยลงทุนด้วยคริปโตแทนเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งช่วยลดขั้นตอนการซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตออกเป็นเงินและในทางกลับกัน ส่งผลให้ต้นทุนการทำธุรกรรมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เจมี เซลเวย์(Jamie Selway) หัวหน้าฝ่ายตลาดและการซื้อขายของ SEC ให้ความเห็นว่า “แนวทางใหม่นี้เป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้ออก ETP, ผู้ร่วมรายการรับอนุมัติ และนักลงทุน ถือเป็นข้อตกลงที่ทุกฝ่ายชนะ” พร้อมเสริมว่า “จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องและประสิทธิภาพให้กับตลาดโดยรวม”
ประโยชน์อีกประการหนึ่งของโครงสร้างการไถ่ถอนแบบใช้สินทรัพย์จริงนี้คือ ความโปร่งใสในการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น และยังช่วยลดความกังวลด้านการปั่นราคาหรือการแทรกแซงตลาด พร้อมทั้งสนับสนุนให้หน่วยงานกำกับดูแลสามารถตรวจสอบและควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ความเคลื่อนไหวนี้จึงถูกมองว่าเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าการจัดการ ETF ในตลาดคริปโตของสหรัฐฯ กำลังปรับเปลี่ยนอย่างเป็นรูปธรรม
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการปรับปรุงระบบหลังจากที่ บิตคอยน์ ETF แบบอ้างอิงสินทรัพย์จริงได้รับการรับรองก่อนหน้านี้ โดยสะท้อนถึงความพยายามของ SEC ในการอัปเกรดโครงสร้างพื้นฐานให้ทันสมัยยิ่งขึ้นจากที่เคยจำกัดอยู่แค่การเข้าหรือออกด้วยรูปแบบเงินสด วงการลงทุนมองว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะช่วยเร่งการ *เข้าสู่กรอบกำกับของผลิตภัณฑ์คริปโต ETP* พร้อมกระตุ้นการไหลเข้าของนักลงทุนสถาบันกลุ่มใหม่ในอนาคตความใกล้เคียงมากขึ้น
ความคิดเห็น 0