สำนักงานคณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ(SEC) ได้อนุมัติให้ใช้วิธีการสร้างและไถ่ถอนกองทุน ETF ที่อ้างอิงราคาสินทรัพย์ดิจิทัลแบบ ‘ส่งมอบจริง(in-kind)’ อย่างเป็นทางการ นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของโครงสร้างการดำเนินงาน ETF จากระบบเงินสดแบบเดิม ซึ่งเป็นสิ่งที่อุตสาหกรรมคริปโตเฝ้ารอมาหลายปี
ในการตัดสินใจครั้งนี้ SEC อนุญาตให้ผู้จัดการกองทุน ETF คริปโตชื่อดังและผู้เข้าร่วมที่ได้รับอนุญาตสามารถสร้างและไถ่ถอนหน่วยลงทุนของกองทุนโดยใช้สินทรัพย์จริงอย่าง *บิตคอยน์(BTC)* และ *อีเธอเรียม(ETH)* โดยตรง วิธีการใหม่นี้ช่วยลดต้นทุนจากค่าธรรมเนียม และลดความต่างของราคาระหว่างการซื้อและขาย (*bid/ask spread*) อย่างมีนัยสำคัญ
พอล แอตกินส์(Paul Atkins) กรรมาธิการ SEC กล่าวว่า “การตัดสินใจครั้งนี้ทำให้การลงทุนใน ETF คริปโตมีประสิทธิภาพและประหยัดมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับนักลงทุนโดยตรง” ขณะที่เจมี เซลเวย์(Jamie Selway) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของ SEC เสริมว่า “รูปแบบใหม่นี้เพิ่มความยืดหยุ่น และจะเป็นรากฐานสำคัญในการปรับปรุงโครงสร้างตลาด ETF คริปโตในอนาคต”
อีริก บัลชูนาส(Eric Balchunas) นักวิเคราะห์ ETF ชื่อดัง แสดงความคิดเห็นว่า “แม้ว่าสำหรับนักลงทุนรายย่อยอาจไม่ได้เห็นความแตกต่างชัดเจน แต่สำหรับโครงสร้างเบื้องหลังของ ETF แล้ว การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เปรียบเสมือนการวางท่อประปาใหม่ให้ไหลลื่นกว่าเดิม”
การตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะของบริษัทจัดการกองทุนรายใหญ่ เช่น *แบล็คร็อก* และ *เกรย์สเกล* ที่พยายามผลักดันการใช้โครงสร้าง ‘ส่งมอบจริง’ มานาน โดยคาดว่าจะช่วยเพิ่มสภาพคล่อง ความแม่นยำของราคา และประสิทธิภาพในการจัดพอร์ตลงทุน
ด้านเนท เจอราซี(Nate Geraci) นักวิเคราะห์ ETF รายหนึ่ง เปิดเผยว่า “หลังจากนี้ SEC อาจหันมาให้ความสำคัญกับฟีเจอร์ *การสเตกเหรียญ (staking)* ภายใน ETF ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าจะได้รับการอนุมัติภายในปีนี้” โดยล่าสุด SEC ได้รับข้อเสนอจากแนสแด็กเกี่ยวกับการปรับระเบียบให้รองรับ *iShares Ethereum ETF* ที่เปิดให้สเตกเหรียญ
นอกจากนี้ SEC ยังได้อนุมัติสินทรัพย์ทางเลือกอื่นในตลาด ETF คริปโตอีกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น *ETF ที่ผสมบิตคอยน์และอีเธอเรียม*, *ออปชันที่อิงตาม ETF บิตคอยน์*, รวมถึง *FLEX Option* ที่สามารถตั้งวันหมดอายุแบบยืดหยุ่น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงท่าทีเชิงบวกต่อผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะ *ETF อีเธอเรียมแบบส่งมอบจริง* ที่มีเงินไหลเข้าสุทธิเป็นเวลา 18 วันต่อเนื่อง ล่าสุดมีเม็ดเงินใหม่กว่า 3.9 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 5.4 หมื่นล้านบาท
การดำเนินการของ SEC ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสู่ความเป็นสถาบันในตลาด ETF คริปโต และจะช่วยดึงดูดนักลงทุนรายใหญ่ รวมถึงส่งเสริมให้ตลาดมีสภาพคล่องและความน่าเชื่อถือเพิ่มมากขึ้น ขณะนี้สายตาทั้งตลาดกำลังจับตาการอนุมัติฟีเจอร์ ‘สเตกเหรียญ’ ใน ETF อย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0