ราคาบิตคอยน์(BTC) ร่วงต่ำกว่าระดับแนวรับที่ 114,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.58 ล้านบาท) ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าแนวรับทางจิตวิทยาที่ 100,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.39 ล้านบาท) อาจถูกเจาะทะลุในไม่ช้า ปัจจัยหลักที่กระตุ้นแรงขายในครั้งนี้มาจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-รัสเซียที่ทวีความรุนแรงขึ้นเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์
ก่อนหน้านี้ บิตคอยน์เคลื่อนไหวในกรอบแคบอยู่ที่ 116,000–123,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.61–1.71 ล้านบาท) แต่ล่าสุดได้ร่วงแตะระดับแนวรับทางเทคนิคที่ 111,000–112,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.54–1.55 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็น ‘จุดซื้อสำคัญ’ เมื่อพิจารณาจากเส้นแนวโน้มการขึ้นในหลายเดือนและระดับราคาสูงก่อนหน้า ในระยะสั้นอาจมีแรงดีดกลับเกิดขึ้นที่บริเวณนี้ แต่หากแนวรับดังกล่าวพังลง มีโอกาสที่ราคาจะหล่นลงไปต่ำถึง 100,000 ดอลลาร์ได้
จากแผนภูมิกรอบเวลา 4 ชั่วโมง พบว่ารูปแบบ ‘ธงขาขึ้น’ (Bullish Flag) ได้แตกลง (Breakdown) โดยหลังจากที่ราคาทะลุแนวต้านไม่สำเร็จ ก็เจอกับแรงเทขายจนราคาย่อลงมาใกล้ระดับแนวรับฟีโบนักชี 0.618 ที่บริเวณ 112,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดที่ ‘โดยทั่วไป’ มีแนวโน้มฟื้นตัวในระยะสั้น แต่หากแรงขายยังดำเนินต่อไป ราคาอาจถอยต่ำกว่า 111,000 ดอลลาร์เพิ่มอีก
‘ข้อมูลบนเครือข่าย (on-chain)’ ล่าสุดยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อผู้ถือครอง โดยเมื่อวานมีบิตคอยน์จำนวน 16,417 BTC ไหลเข้าสู่แพลตฟอร์มซื้อ-ขาย เป็นปริมาณ ‘การไหลเข้าสุทธิ’ ที่สูงที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม ขณะเดียวกัน ‘ดัชนีปลาวาฬ’ (Exchange Whale Ratio) พุ่งสูงเกิน 0.70 เป็นสัญญาณว่ากลุ่มผู้ถือครองรายใหญ่อาจกำลังเตรียมเทขาย ซึ่งอาจมาจากการปรับพอร์ตหรือป้องกันความเสี่ยงในช่วงตลาดไม่แน่นอน
ทั้งนี้ แนวโน้มของราคาจะขึ้นอยู่กับว่าแนวรับปัจจุบันจะสามารถยืนได้หรือไม่ แม้ในระยะสั้นจะมีแรงรีบาวน์เกิดขึ้น แต่อิทธิพลจากความเสี่ยงระดับโลกและพฤติกรรมของนักลงทุนรายใหญ่ยังคงส่ง ‘แรงกดดันฝั่งขาลง’ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ *ความคิดเห็น: นักเทรดควรจับตาแนวรับสำคัญและพฤติกรรมของปลาวาฬอย่างใกล้ชิดในช่วงนี้*
ความคิดเห็น 0