ไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครสเตรทิจี(MicroStrategy) และเป็นที่รู้จักในวงการคลิปโตว่าเป็นสาย *บิตคอยน์(BTC) แบบสุดโต่ง* ได้ส่งข้อความกระตุ้นจิตใจในช่วงที่ตลาดเผชิญความหวาดกลัวอย่างหนัก จากการที่ราคาบิตคอยน์ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของนักลงทุน เซย์เลอร์ได้โพสต์วลีสั้นๆ ที่กระตุ้นอารมณ์ว่า “*Ignore the ₿ears*” หรือ *“จงไม่แยแสหมี”* ซึ่งเป็นถ้อยคำสื่อถึงหลักปรัชญาการลงทุนในระยะยาว และความเชื่อมั่นในบิตคอยน์ที่ยังไม่สั่นคลอนของเขา
โพสต์ดังกล่าวมาพร้อมกับภาพกราฟิกที่สร้างโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งเป็นภาพเซย์เลอร์ในชุดพรานล่าเหมี พร้อมตามล่าหมีราวกับเป็นสัญลักษณ์ของความกลัวในตลาด จุดที่น่าสนใจอยู่ที่อักษร ‘B’ บนเสื้อของเซย์เลอร์ ถูกแทนด้วย 4 แท่งแนวตั้งซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ ‘บิตคอยน์’ ส่งสัญญาณถึงการยึดมั่นในแนวคิดว่า *บิตคอยน์คือทองคำดิจิทัล* นั่นเอง
ในเชิงปฏิบัติ ไมโครสเตรทิจี ยังคงแสดงจุดยืนด้วยการลงทุนเพิ่ม บริษัทรายงานว่ามีการเข้าซื้อบิตคอยน์อีก 430 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าราว 51.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 714 ล้านบาท การซื้อครั้งนี้ส่งผลให้จำนวนบิตคอยน์สะสมของไมโครสเตรทิจีพุ่งแตะแล้วที่ 629,376 เหรียญ ซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมแตะ 7.15 แสนล้านบาท โดยประมาณ
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีเสียงยืนยันความเชื่อมั่นจากเซย์เลอร์ ตลาดบิตคอยน์กลับกำลังเผชิญแรงเทขายรุนแรง ตั้งแต่แตะจุดสูงสุดใหม่ที่ 124,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 17.2 ล้านบาทต่อเหรียญ ก็เกิดการปรับฐานอย่างรวดเร็ว ราคาร่วงลงแล้วประมาณ 8% ภายในสัปดาห์เดียว และลดลงมากกว่า 2% ในวันเดียว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแรงขายเพื่อทำกำไรและการล้างสถานะ (liquidation) ต่อเนื่อง
ในอีกด้าน อีเธอเรียม(ETH) กลับแสดงความแข็งแกร่งในช่วงเวลาเดียวกัน โดยทะลุระดับ 4,200 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 584,000 บาทต่อเหรียญ ซึ่งได้รับแรงเสริมจากเงินทุนที่ไหลเข้าสู่กองทุน ETF ที่อ้างอิงอีเธอเรียมโดยตรง นักวิเคราะห์บางรายถึงกับระบุว่า *“ในวัฏจักรรอบนี้ อีเธอเรียมอาจทำผลงานแซงหน้าบิตคอยน์ได้”* ทำให้เกิดทิศทางที่แตกต่างกันระหว่างสองสินทรัพย์ชั้นนำในตลาด
ท้ายที่สุดแล้ว ข้อความของเซย์เลอร์ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องขำขันหรือกลยุทธ์การตลาด แต่สื่อให้เห็นแนวคิดว่า *ในโลกของคริปโต ความมั่นคงในระยะยาวอาจสำคัญกว่าความผันผวนระยะสั้น* และหากเชื่อมั่นในบิตคอยน์ ก็จงจำ ‘กระทิง(Bull)’ แทนที่จะหวาดกลัว ‘หมี(Bear)’ นั่นคือสารสำคัญที่เขาต้องการฝากไว้ในช่วงเวลาที่ตลาดกำลังสั่นคลอน
ความคิดเห็น 0