ราคาบิตคอยน์(BTC) ร่วงลงอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนจำนวนไม่น้อยเข้าสู่ภาวะ ‘หวาดกลัว’ แต่ในขณะที่ตลาดกำลังจมลงในความตื่นตระหนก นักวิเคราะห์บางรายกลับมองว่านี่อาจเป็น ‘โอกาสซื้อในจุดต่ำ’ ที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม *ความคิดเห็น* กล่าวว่าช่วงเวลาที่นักลงทุนกำลังหวั่นไหวอย่างหนัก อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการพลิกกลับของตลาดก็ได้
เมื่อวันที่ 19 (เวลาท้องถิ่น) บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลออนเชน แซนติเมนต์(Santiment) รายงานว่า ราคาบิตคอยน์หล่นลงต่ำกว่า 113,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.57 ล้านบาท) ส่งผลให้ความรู้สึกของชุมชนคริปโตเปลี่ยนเข้าสู่ภาวะ ‘หมี’ อย่างฉับพลัน ถือเป็นวันที่อารมณ์ในตลาดติดลบมากที่สุดนับตั้งแต่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยความเห็นเชิงลบมีมากกว่าข้อความด้านบวกอย่างเห็นได้ชัด สะท้อนให้เห็นถึง *ภาวะตื่นตระหนกเกินจริงของมวลชน*
แซนติเมนต์ระบุว่า “ตามสถิติในอดีต ความตื่นตระหนกอย่างรุนแรงมักเป็นสัญญาณเปลี่ยนทิศกลับของราคา โดยเฉพาะเมื่อความกลัวขึ้นถึงจุดสูงสุด จะมีนักลงทุนหัวไวบางกลุ่มเข้ามาซื้อในช่วงที่คนส่วนใหญ่กำลังเทขาย” ซึ่งก็สอดคล้องกับเหตุการณ์ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ที่ราคาบิตคอยน์ร่วงหนักจากประเด็นความตึงเครียดในสหรัฐฯ และฟื้นตัวกลับมาอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งเหตุการณ์แบบเดียวกันเกิดซ้ำในเดือนกรกฎาคมอีกเช่นกัน
สิ่งที่นักวิเคราะห์ให้ความสำคัญอีกประเด็นหนึ่ง คือ *แรงขายแบบตื่นตระหนกระยะสั้น* โดยข้อมูลจากคริปโตควอนต์(CryptoQuant) ชี้ว่า นักลงทุนระยะยาวที่ถือครองบิตคอยน์มาตั้งแต่ช่วงตลาดกระทิงปี 2021 (ประมาณ 3-5 ปี) เริ่มมีการขายออกท่ามกลางการร่วงลงของราคา แสดงให้เห็นว่าความไม่แน่นอนของตลาดเริ่มส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุน แม้กลุ่มนี้จะถูกจัดว่าเป็นนักลงทุนระดับสูง แต่กลับมีพฤติกรรมคล้ายกับมือใหม่ที่รีบตัดสินใจจากแรงกดดัน
ทิศทางราคาบิตคอยน์สะท้อนถึงความแปรปรวนของจิตวิทยาตลาดอย่างชัดเจน โดยราคาเพิ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 124,457 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.73 ล้านบาท) เมื่อ 6 วันก่อน แต่หลังจากนั้นกลับร่วงถึง 8.5% ขณะที่ตลาดคริปโตโดยรวมปรับตัวลง 8.1% ในช่วงเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ราคาบิตคอยน์ลดลงเพียง 4.9% ซึ่งยังถือว่าแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่น และถ้านับจากต้นปี ราคายังเพิ่มขึ้นกว่า 87.4%
นักวิเคราะห์บางรายแสดงความเห็นว่า หากเงินทุนไม่ได้ไหลออกจากตลาดโดยตรง แต่อยู่ในรูปแบบของการหมุนเวียนภายในหรือย้ายไปยังสินทรัพย์ดิจิทัลบางประเภท การปรับฐานนี้อาจเป็น ‘การย่อตัวเพื่อสร้างฐานใหม่’ ที่ถือว่า ‘แข็งแรง’
โดยสรุป กระแสการเทขายอย่างรุนแรงและภาวะหวาดกลัวที่บอบบางเกินไปในตอนนี้ อาจกลายเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่มองระยะยาว แม้จะไม่มีใครฟันธงจังหวะการกลับตัวได้แน่นอน แต่สิ่งที่นักวิเคราะห์หลายคนเน้นย้ำคือ *“ตลาดที่เต็มไปด้วยเลือด อาจเป็นจุดที่ผู้กล้าจะคว้าโอกาสได้มากที่สุด”*
ความคิดเห็น 0