บิตคอยน์(BTC) ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงราคาที่นิ่ง ทำให้นักลงทุนแสดงพฤติกรรมที่แตกต่างกันออกไป โดยข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ออนเชนชื่อดังอย่าง Glassnode เผยให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวของแต่ละกลุ่มผู้ถือครองบิตคอยน์อย่างละเอียด แม้ตลาดไม่ได้มีการปรับตัวแรง แต่ก็เห็นสัญญาณที่น่าสนใจเกี่ยวกับทิศทางใหม่ๆ จากผู้เล่นในตลาด
ตลอดช่วง 5 วันที่ผ่านมา กลุ่มนักลงทุนที่ถูกจัดประเภทว่าเป็น ‘ผู้ซื้อรายแรก’ หรือ *First Buyers* ได้สะสมบิตคอยน์สุทธิประมาณ 50,000 BTC ส่งผลให้ยอดถือครองเพิ่มขึ้นจาก 4.88 ล้าน BTC เป็น 4.93 ล้าน BTC หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 1% ซึ่งสะท้อนว่ามี *ความต้องการใหม่ๆ เข้ามาในตลาด* อย่างต่อเนื่อง
ในขณะที่กลุ่ม ‘ผู้ถือมั่นระยะยาว’ หรือ *Conviction Buyers* ก็มีกิจกรรมที่แสดงถึงการทยอยสะสมเช่นกัน โดยถือครองเพิ่ม 10% จาก 933,000 BTC มาอยู่ที่ 1.03 ล้าน BTC ภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน แต่อย่างไรก็ตาม Glassnode ให้ *ความคิดเห็น* ว่าความเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้ยังต่ำกว่าช่วงฟื้นตัวในต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งอาจหมายความว่าราคาปัจจุบันยังไม่ล่อใจพอให้พวกเขาเข้าสะสมมากขึ้น
ในอีกด้านหนึ่ง กลับมีนักลงทุนบางส่วนที่เลือกตัดขาดทุน โดยกลุ่มที่เรียกว่า ‘ผู้ขายขาดทุน’ หรือ *Loss Sellers* มีปริมาณบิตคอยน์เพิ่มขึ้นถึง 37.8% ภายใน 5 วัน จาก 63,000 BTC เป็น 87,000 BTC ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการขายที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลมาจากความกังวลในตลาด อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญยังเชื่อว่า *แรงขายจากความกลัวไม่ได้รุนแรงเหมือนช่วงขาลงก่อนหน้า* และอยู่ในวงจำกัด
ขณะเดียวกัน กลุ่ม ‘ผู้ทำกำไร’ หรือ *Profit Takers* เริ่มกลับเข้ามาเคลื่อนไหว โดยมีการเพิ่มการถือครองจาก 1.73 ล้าน BTC เป็น 1.83 ล้าน BTC หรือกว่า 5.4% ซึ่งถือเป็นการทำกำไรครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และอาจเป็นสัญญาณของ *การทำกำไรในขอบเขตราคาปัจจุบันที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี*
นอกจากนั้น ยังเห็นความเปลี่ยนแปลงจากกลุ่มนักลงทุนระยะสั้น โดยตามข้อมูลจาก CryptoQuant พบว่ากลุ่มนี้เริ่มยอมขายออกแม้ราคาจะต่ำกว่าทุนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม ซึ่ง *ความคิดเห็น* จากนักวิเคราะห์บางรายระบุว่าพฤติกรรมนี้คล้ายกับช่วงก่อนเกิดการปรับฐานต้นปี 2024 และอาจเป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังสูญเสียแรงขับเคลื่อนในระยะสั้น หรือเข้าสู่ช่วงพักฐานตามปกติ
ภาพรวมของรายงานนี้ชี้ให้เห็นว่า *การเคลื่อนไหวภายในของตลาดบิตคอยน์มีความซับซ้อนเกินกว่าที่แผนภูมิราคาเพียงอย่างเดียวจะอธิบายได้* และพฤติกรรมของแต่ละกลุ่มนักลงทุนถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่อาจช่วยคาดการณ์ทิศทางของตลาดในอนาคตได้อย่างมีนัยยะ
ความคิดเห็น 0