Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บิตคอยน์(BTC) ทรงตัวหลังร่วงแรง ขณะที่เอ이다(ADA)–ริปเปิล(XRP) สร้างกระแสใหม่ในตลาดคริปโต

บิตคอยน์(BTC) ทรงตัวหลังร่วงแรง ขณะที่เอ이다(ADA)–ริปเปิล(XRP) สร้างกระแสใหม่ในตลาดคริปโต / Tokenpost

บิตคอยน์(BTC) กำลังเคลื่อนไหวทรงตัวหลังจากร่วงลงอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางการจับตาทิศทางราคาใหม่ของตลาดคริปโต โดยในเวลานี้ความสนใจเริ่มหันไปยังหลายสินทรัพย์สำคัญที่สะท้อนสถานะของภาวะตลาด—ทั้ง *บิตคอยน์*, *ริปเปิล(XRP)* และ *เอ이다(ADA)* ต่างกลายเป็นจุดโฟกัสที่กำลังสร้างความเคลื่อนไหวที่แตกต่าง

จากรายงานล่าสุดของแพลตฟอร์มวิเคราะห์ตลาด ‘แซนติเมนต์(Santiment)’ ระบุว่า บรรดานักลงทุนยังคงถกเถียงอย่างเข้มข้นเกี่ยวกับบทบาทของ *บิตคอยน์* ในฐานะแหล่งเก็บมูลค่า ควบคู่ไปกับการศึกษาแนวโน้มราคาในอดีต และช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเข้าสู่ตลาด ในขณะเดียวกัน บริษัทไมนิ่งระดับองค์กรอย่าง ‘ไมโครสแตรทิจี(MSTR)’ ได้รับความสนใจอีกครั้งหลังจากที่ไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) ประธานบริษัท ยังคงเดินหน้า ‘ซื้อเพิ่ม’ บิตคอยน์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนำไปสู่การวิเคราะห์ความเสี่ยงทั้งในเรื่องของ ‘ราคาหุ้นพรีเมียม’, ‘สภาพคล่อง’ และ ‘ความเป็นไปได้ในการลดสัดส่วนถือหุ้นของผู้ถือปัจจุบัน’

ด้าน *เทเธอร์(USDT)* ก็กลายเป็นประเด็นร้อนอีกครั้งในโซเชียลมีเดีย หลังมีการออกเหรียญใหม่มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.39 หมื่นล้านบาท) บนเครือข่ายอีเธอเรียม(ETH) โดยมีการสังเกตว่าการทำธุรกรรมซ้ำๆ ระหว่างเทเธอร์และแพลตฟอร์มบิทไฟแน็กซ์(Bitfinex) อาจจุดกระแสวิจารณ์อีกรอบเกี่ยวกับ *ความเป็นศูนย์กลาง* และ *ปัญหาเรื่องความโปร่งใส* ของ USDT ผู้ใช้บางรายมองว่าแม้ USDT จะมีคุณสมบัติเด่นด้านการสเตกกิ้ง, บริการเงินกู้แบบแฟลช (Flash Loan) และความยืดหยุ่นในการใช้งานครอสเชน แต่ก็ยังมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่อง *ความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ* อยู่

ทางด้านของ *ริปเปิล(XRP)* ยังคงต้องเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับอิทธิพลที่บริษัท ริปเปิล มีต่อระบบ โดยเฉพาะในประเด็นเรื่อง *โครงสร้างที่ไม่ได้กระจายศูนย์จริง*, ความเป็นไปได้ในการควบคุมอุปทาน และราคาของ XRP กลุ่มนักลงทุนบางส่วนถึงขั้นเปรียบเทียบ XRP กับโครงการที่เน้นการกระจายศูนย์อย่างแท้จริง เช่น IOTA และตั้งคำถามถึงความยั่งยืนของ XRP แม้จะยอมรับว่า XRP มีความได้เปรียบในเรื่องของการโอนเงินข้ามประเทศ แต่อนาคตในระยะยาวยังต้องพิจารณารูปแบบโครงสร้างของเหรียญให้มากกว่านี้

ในทางกลับกัน *เอิดา(ADA)* กลับได้รับเสียงตอบรับเชิงบวก โดยมีการชื่นชมในส่วนของ *สถาปัตยกรรมหลายชั้น (Multi-layer design)*, กลไกฉันทามติแบบ ‘การพิสูจน์ด้วยการถือครอง’ (PoS) และการรองรับเครือข่ายแบบครอสเชน ที่ช่วยเร่งพัฒนาระบบนิเวศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งไปกว่านั้น เหรียญมีมอย่าง *สเนก(SNEK)* ซึ่งถือกำเนิดโดยชุมชนภายใน ADA ก็กำลังได้รับการจับตาอย่างจริงจัง ด้วยแผนการพัฒนาเชิงกลยุทธ์ เช่น *การสร้างโครงสร้างเชิงการเมืองของโทเคน*, *การกระจายสภาพคล่อง*, และ *การขยายพันธมิตร* การจัดกิจกรรมล่าสุดกับคูคอยน์(KuCoin) รวมถึงแคมเปญแอร์ดรอป ยิ่งทำให้ ADA ดู ‘จริงจังมากขึ้น’ ในมุมของนักลงทุน

กระแสดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าตลาดเริ่มหันเหจากการพุ่งเป้าไปที่ *ราคาตลาด* มาเป็น *การประเมินโครงสร้างระบบ, โมเดลการบริหารจัดการ, และศักยภาพในการขยายระบบนิเวศ* ท่ามกลางความผันผวนที่ยังไม่สิ้นสุด โอกาสจึงอาจอยู่ในมือของเครือข่ายบล็อกเชนที่สามารถปรับตัวและพัฒนาให้สอดคล้องกับอนาคตได้ดีกว่าเดิม

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1