สถาบันการเงินแบบดั้งเดิมกำลังก้าวเข้าสู่ตลาดคริปโตโดยไม่มีโมเดลการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมกับ ‘ลักษณะเฉพาะและความผันผวนสูง’ ของสินทรัพย์ดิจิทัล นี่คือคำเตือนจาก เคทลิน ลอง(Caitlin Long) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารคัสโตเดีย (Custodia) ที่ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า แม้สถาบันจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของแรงซื้อในตลาดปัจจุบัน แต่อาจ ‘ได้รับผลกระทบรุนแรง’ หากเจอรอบขาลงในอนาคต
เมื่อวันที่ 21 (เวลาท้องถิ่น) ในงาน Blockchain Symposium ที่รัฐไวโอมิง ลองให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า สถาบันการเงินขนาดใหญ่หลายแห่ง ‘กำลังเข้าสู่ตลาดคริปโตอย่างจริงจัง’ โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาทะยานขึ้นรอบล่าสุด และแนวโน้มดังกล่าวดูเหมือนจะ ‘ยังคงดำเนินต่อไป’
อย่างไรก็ตาม ลองได้ตั้งข้อสังเกตถึงปัญหาโครงสร้างของภาคการเงินแบบดั้งเดิมว่า ธนาคารเหล่านี้มี ‘ระบบป้องกันความเสี่ยง’ เช่น ส่วนลดจากหน้าต่างพิเศษ (discount window) ที่ทำให้ ‘คุ้นเคยกับการใช้เลเวอเรจอย่างรุนแรง’ ซึ่งเป็นลักษณะของความทนทานต่อความล้มเหลว (fault tolerance) ที่ฝังอยู่ในระบบเดิม แต่ในตลาดคริปโตกลับไม่มีโครงสร้างป้องกันแบบเดียวกัน นั่นหมายถึงความเสี่ยงที่สูงขึ้นเมื่อตลาดเกิดความผันผวน
ลองแสดงความกังวลว่า สถาบันการเงินเหล่านี้ ‘อาจประเมินความเสี่ยงต่ำเกินไป’ เมื่อต้องรับมือกับความผันผวนของตลาดคริปโต อีกทั้งธรรมชาติขององค์กรที่มีความอนุรักษนิยมสูงและเฉื่อยชา อาจกลายเป็นอุปสรรคในการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ที่เปลี่ยนแปลงเร็ว
ท่ามกลางกระแสความสนใจของนักลงทุนสถาบันต่อเหรียญหลักอย่าง บิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH), โซลานา(SOL), โพลิกอน(MATIC) และ อวาแลนช์(AVAX) ความเห็นของลองได้จุดประเด็นเรื่องการบริหารความเสี่ยงในตลาดคริปโตขึ้นมาอีกครั้ง โดยเฉพาะในห้วงเวลาที่คำพูดและนโยบายของทรัมป์กลายเป็น ‘ปัจจัยกระตุ้นความไม่แน่นอนในระดับมหภาค’ ซึ่งน่าจะสร้างแรงกดดันต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนไปอีกระยะหนึ่ง
*คำสำคัญ: ความเสี่ยงในตลาดคริปโต, นักลงทุนสถาบัน, บิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH), ทรัมป์*
ความคิดเห็น 0