เจมส์ วินน์(James Wynn) มหาเศรษฐีคริปโตเปิดเผยว่าแม้เขาจะขาดทุนจากการลงทุนในโดจคอยน์(DOGE)ในช่วงปลายของการปรับฐานตลาด แต่เขายังเชื่อว่าตลาดคริปโตกำลังเข้าสู่ช่วง ‘ฟื้นตัว’
วินน์ตัดสินใจเปิดสถานะ ‘ลอง’ โดยใช้เลเวอเรจถึง 10 เท่าเพื่อลงทุนในราคาโดจคอยน์ช่วงขาขึ้น แต่ราคากลับร่วงลงอย่างกะทันหัน ส่งผลให้เขาขาดทุนกว่า 22,627 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.1 ล้านบาท ตามรายงานของ Onchain Lens แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลออนเชน เมื่อวันที่ 5 โดยระบุว่า บัญชีของเจมส์ วินน์ถูกบังคับปิดสถานะจากการขาดทุนดังกล่าว
แม้จะดูรุนแรง แต่การขาดทุนครั้งนี้ถือว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ โดยเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม เขาเคยถูกล้างพอร์ตจากการลงทุนในบิตคอยน์(BTC)ผ่าน Hyperliquid ด้วยเลเวอเรจสูงถึงมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.39 พันล้านบาท หลังจากที่ราคาบิตคอยน์ร่วงลงชั่วคราวแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 วันที่ระดับ 105,000 ดอลลาร์
เจมส์ วินน์โทษกลุ่ม ‘ผู้ดูแลสภาพคล่องในตลาดคริปโต’ หรือ market maker ว่าอยู่เบื้องหลังความเคลื่อนไหวที่ทำให้สถานะของเขาถูกบังคับปิด โดยระบุว่า “มีแรงจงใจจากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่ตั้งใจล้างสถานะลองในตลาด” *ความคิดเห็น* เขามองว่าเหตุการณ์นี้อาจเป็น ‘สัญญาณจากตลาด’ ว่าการปรับฐานใกล้จะสิ้นสุดลง
สิ่งที่เจมส์ วินน์กล่าวถึงยังสอดคล้องกับบริบทเศรษฐกิจมหภาคในปัจจุบัน ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณของความชัดเจนมากขึ้น ทั้งจากนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ที่เป็นมิตรกับคริปโต และท่าทีของสหรัฐที่กำลังก้าวสู่การเลือกตั้ง ซึ่ง *คำ* อาจกลายเป็น ‘ปัจจัยบวก’ ที่หนุนราคาสินทรัพย์ดิจิทัลในระยะกลาง
กรณีของเจมส์ วินน์ตอกย้ำความ *เสี่ยง* ของการใช้เลเวอเรจสูงในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างชัดเจน อย่างไรก็ดี วินน์ยังคงยืนยันความเชื่อมั่นของเขา พร้อมระบุว่า “ความเคลื่อนไหวครั้งนี้จะกลายเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการ ‘ดีดกลับ’ ในวงจรตลาด”
ความคิดเห็น 0