Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

ภัยควอนตัมคุกคามบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ผู้เชี่ยวชาญเตือนอาจถอดรหัสสำเร็จภายในปี 2028

ภัยควอนตัมคุกคามบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ผู้เชี่ยวชาญเตือนอาจถอดรหัสสำเร็จภายในปี 2028 / Tokenpost

เทคโนโลยีควอนตัมคอมพิวเตอร์กำลังกลายเป็นภัยคุกคามต่อ *โครงสร้างความปลอดภัย* ของระบบคริปโตอย่างร้ายแรง ล่าสุดรายงานที่ถูกส่งถึงหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจด้านคริปโตของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ(SEC) เตือนว่า หากไม่มีการเตรียมการอย่างจริงจัง อาจทำให้สกุลเงินดิจิทัลอย่าง *บิตคอยน์(BTC)* และ *อีเธอเรียม(ETH)* ตลอดจนระบบสินทรัพย์ดิจิทัลโดยรวม ตกอยู่ภายใต้ *ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอย่างสาหัส*

รายงานที่มีชื่อว่า *Post-Quantum Financial Infrastructure Framework (PQFIF)* จัดทำโดยผู้เชี่ยวชาญ ดาเนียล บรูโน คอร์เบลู คอสตา(Daniel Bruno Corvelo Costa) โดยในรายงานดังกล่าว ได้วาง ‘แผนการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบที่ต้านทานควอนตัม’ เพื่อรักษาทรัพย์สินมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ คอสตาระบุชัดว่า การมาถึงของ *คอมพิวเตอร์ควอนตัมระดับถอดรหัส (CRQC)* อาจทำลายพื้นฐานการเข้ารหัสของคริปโตแบบเดิม และสร้างความเสียหายอย่าง *รุ่นแรงต่อระบบและผู้ลงทุน*

หนึ่งในข้อกังวลสำคัญ คือกลยุทธ์ที่เรียกว่า *“ดักรอแล้วถอดรหัสทีหลัง”* ซึ่งหมายถึงฝ่ายไม่หวังดีที่อาจรวบรวมข้อมูลเข้ารหัสไว้ล่วงหน้า ก่อนจะใช้เทคโนโลยีควอนตัมในอนาคต *ถอดรหัสข้อมูลเหล่านั้น* กลยุทธ์นี้กลายเป็นประเด็นร้อนในแวดวงความปลอดภัยไซเบอร์ทั่วโลก เนื่องจากแสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงด้านเวลา ที่ปัจจุบันอาจยังไม่มีผล แต่จะกลายเป็น *วิกฤต* ในอนาคต

สำหรับกรอบแนวทาง PQFIF คอสตาแนะนำให้เริ่มจาก *ประเมินความเปราะบางของแพลตฟอร์มดิจิทัลโดยอัตโนมัติ*, เริ่มต้นการเปลี่ยนผ่านจากระบบที่มีความเสี่ยงสูงอย่าง *กระเป๋าสตางค์คริปโตแบบรับฝากและแพลตฟอร์มซื้อขายหลัก*, และดำเนินการ *มอบทางเลือกระหว่างเทคโนโลยีเข้ารหัสแบบเดิมและแบบที่ต้านทานควอนตัม (Hybrid Migration)* อย่างเป็นขั้นเป็นตอน เขายังเน้นย้ำว่า การนำ *มาตรฐาน FIPS 203–205 และ HQC* ที่สถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติของสหรัฐ(NIST) กำหนดไว้ในปี 2024 มาใช้อย่างเคร่งครัดมี *ความสำคัญอย่างยิ่ง*

เทคโนโลยีควอนตัมที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดนี้ อาจเขย่าตลาดคริปโตทั้งระบบ หากระบบเข้ารหัสแบบเดิมถูกโจมตีสำเร็จ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นคือ *ความเสียหายต่อมูลค่าการลงทุนระดับล้านล้านบาท*, *ผู้ให้บริการรับฝากและระบบชำระเงินต้องหยุดการดำเนินงาน*, และ *ความเชื่อมั่นในตลาดพังทลายลง* ความเห็นจากคอสตาคือ ภายในปี 2028 คอมพิวเตอร์ควอนตัมอาจสามารถ *ถอดรหัสของบิตคอยน์ได้สำเร็จ* ซึ่งวันนั้นอาจถือเป็นการมาถึงของ *“Q-เดย์”*

เพื่อตอบสนองต่อสัญญาณเตือนนี้ นักพัฒนาของบิตคอยน์ได้เสนอแนวทางการเปลี่ยนผ่านในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยแผน ‘ชี้แนะการอัปเกรดบิตคอยน์ (BIP)’ ฉบับใหม่ จะ *หยุดไม่ให้ส่งเหรียญจากที่อยู่เก่า* ที่ไม่รองรับมาตรฐานใหม่ และ *ทำการแช่แข็งบิตคอยน์ในที่อยู่เหล่านั้นภายในห้าปี* เพื่อปิดทางสำหรับการถูกเจาะระบบจากเทคโนโลยีควอนตัม *ล่วงหน้า*

นอกจากนี้ เดวิด คาร์วัลยู(David Carvalho) ซีอีโอของ Naoris Protocol ยังออกบทความระบุว่า ควอนตัมคอมพิวเตอร์คือหนึ่งในภัยคุกคามที่ *ร้ายแรงและใกล้ตัวที่สุด* ซึ่งสามารถล้มระบบความปลอดภัยของบิตคอยน์ได้ภายใน *ห้าปี* สร้างแรงกระตุ้นให้วงการคริปโตเร่งเตรียมรับมือ

ท้ายที่สุด คอสตากล่าวว่า หากต้องการคุ้มครองทุนของนักลงทุน พร้อมรับประกันเสถียรภาพของตลาดทุนสหรัฐในระยะยาว การสร้าง *ระบบนิเวศของสินทรัพย์ดิจิทัลที่สามารถต้านทานเทคโนโลยีควอนตัม* ถือเป็นสิ่งจำเป็น *ความคิดเห็น*: กระแสนี้ยังสอดคล้องกับนโยบายด้านความมั่นคงไซเบอร์ที่เข้มข้นขึ้นภายใต้รัฐบาลของทรัมป์ ซึ่งอาจทำให้แนวคิดดังกล่าวมีบทบาทสำคัญต่อทิศทางของกฎหมายและกฎระเบียบคริปโตในอนาคต

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1