Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

ริปเปิล(XRP) คาด 10% ของทรัพย์สินทั่วโลกจะถูกโทเคนไนซ์ภายในปี 2030

ริปเปิล(XRP) คาด 10% ของทรัพย์สินทั่วโลกจะถูกโทเคนไนซ์ภายในปี 2030 / Tokenpost

ริปเปิล(XRP) กำลังเร่งขยายบทบาทในฐานะ ‘ผู้นำของโครงสร้างพื้นฐานด้านการดูแลทรัพย์สินแบบกระจายศูนย์’ โดยล่าสุดได้เปิดเผยภาพรวมตลาดในอีก 5 ปีข้างหน้าว่า จะมี ‘10% ของทรัพย์สินทั่วโลกถูกโทเคนไนซ์ภายในปี 2030’ สะท้อนเจตนารมณ์ของบริษัทที่จะเป็นผู้นำในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก

จากรายงานฉบับใหม่ของริปเปิล คาดว่าในอนาคตอันใกล้ สินทรัพย์การเงินแบบดั้งเดิมจำนวนมากจะถูกย้ายเข้าสู่ระบบบล็อกเชน โดยเฉพาะตลาดบริการดูแลทรัพย์สินดิจิทัลซึ่งถูกมองว่าเป็น ‘กำลังหลัก’ ของการเปลี่ยนผ่านนี้ ทั้งนี้ ริปเปิลประเมินว่า ภายในปี 2030 จะมีทรัพย์สินมูลค่าราว 16 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.2 ควอดริลเลียนวอน อยู่ภายใต้บริการดูแลผ่านผู้ให้บริการด้านการดูแลสินทรัพย์ (custody service) ซึ่งรวมถึงคริปโตเคอร์เรนซี อสังหาริมทรัพย์ที่ถูกโทเคนไนซ์ พันธบัตรรัฐบาล และสเตเบิลคอยน์หลากหลายประเภท

ในแนวโน้มนี้ ‘Ripple Custody’ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานหลักของริปเปิล กำลังถูกใช้งานโดยองค์กรระหว่างประเทศชั้นนำ ตัวอย่างเช่น บริษัท SG-FORGE ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทการเงินขนาดใหญ่จากฝรั่งเศสอย่าง โซซิเอเต้ เจเนราล (Société Générale) ได้มีการออกสเตเบิลคอยน์ที่มีพื้นฐานเป็นเงินยูโร (EURCV) บนระบบบัญชีแยกประเภทของ XRP โดยใช้โซลูชันการดูแลสินทรัพย์จากริปเปิล ขณะเดียวกันในเกาหลีใต้ บริษัท BDACS ก็ได้ดำเนินงานเกี่ยวกับบริการดูแลสเตเบิลคอยน์ RLUSD ซึ่งมีพื้นฐานจากเงินดอลลาร์

นอกจากตลาดหลักแล้ว ริปเปิลยังเดินหน้าเข้าสู่ภูมิภาคต่าง ๆ โดยเฉพาะในทวีปแอฟริกา RLUSD ได้รับการผลักดันผ่านความร่วมมือกับบริษัทฟินเทคในแอฟริกาอย่าง ชิปเปอร์ แคช(Chipper Cash), วัลร์(VALR) และเยลโลการ์ด(Yellow Card) เพื่อจัดส่ง RLUSD ให้กับสถาบันในท้องถิ่น โดยมีเป้าหมายจะใช้เป็นระบบโอนเงินระหว่างประเทศและเครื่องมือชำระเงินดิจิทัลในระดับภูมิภาค ครอบคลุมทั้งผู้ใช้งานรายบุคคลและสถาบัน

ในมิติด้านเทคโนโลยี XRP ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า ‘Credentials’ เพื่อสนับสนุนกลไก KYC (การยืนยันตัวตนผู้ใช้งาน) และ AML (การต่อต้านการฟอกเงิน) สำหรับธุรกิจแลกเปลี่ยนและสถาบันต่าง ๆ โดยออกแบบมาให้สามารถบริหารความสอดคล้องกับข้อบังคับผ่านบล็อกเชนอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ฟีเจอร์ดังกล่าวจะกลายเป็น ‘โครงสร้างพื้นฐานแบบกำหนดเองสำหรับองค์กร’ ควบคู่กับบริการดูแลทรัพย์สิน

*ความคิดเห็น* จากผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การขยายตัวของริปเปิลเกินขอบเขตของคริปโตไปสู่การประสานกับระบบการเงินแบบดั้งเดิม กำลังส่งสัญญาณเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตลาดในระดับสถาบัน โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับการดูแลสินทรัพย์และระบบการยืนยันตัวตน ถือเป็น ‘เทคโนโลยีหลัก’ สำหรับอนาคตของตลาดโทเคนไรซ์

หากแผนที่ริปเปิลนำเสนอสามารถเป็นจริงได้จริง โครงสร้างของระบบสินทรัพย์โลกอาจถูก ‘จัดระเบียบใหม่โดยมีโทเคนไรซ์เป็นศูนย์กลาง’ ซึ่งเป็นแผนภาพอนาคตที่เริ่มเห็นแนวโน้มอย่างชัดเจน และทำให้การเคลื่อนไหวของริปเปิลในจุดตัดของ ‘การกระจายศูนย์’ กับ ‘ระบบการเงินแบบสถาบัน’ กลายเป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิดจากทั้งวงการคริปโตและฝั่งการเงินดั้งเดิม

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1