โซลานา(SOL) กำลังได้รับความสนใจจากตลาดอีกครั้ง หลังมีความเป็นไปได้ที่กองทุน ETF ของโซลานาอาจได้รับการอนุมัติ การเปิดทางให้สถาบันการเงินสามารถเข้าถึงสินทรัพย์นี้ผ่านผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการควบคุม อาจเป็นตัวเร่งให้โซลานาก้าวข้ามภาพลักษณ์ของ ‘บล็อกเชนแห่งมีมคอยน์’ และยกระดับสู่เครือข่ายที่รองรับแอปพลิเคชันทางการเงินแบบดั้งเดิม
โซลานาก่อตั้งขึ้นในปี 2020 โดยมีเป้าหมายเป็นศูนย์กลางของตลาดการเงินบนบล็อกเชน แต่ในปัจจุบัน สินทรัพย์ที่มีการซื้อขายมากที่สุดบนเครือข่ายกลับเป็น ‘มีมคอยน์’ ทำให้บางฝ่ายมองว่า โซลานาเป็นเพียงเครือข่ายสำหรับโครงการที่เน้นกระแส อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มเปิดตัวเหรียญใหม่อย่าง Pump.fun ซึ่งเป็นบริการสร้างโทเคนบนโซลานา ได้ช่วยให้เครือข่ายมีปริมาณธุรกรรมเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยสามารถสร้างโทเคนได้มากกว่า 7.5 ล้านรายการ และมีมูลค่าซื้อขายสะสมถึง 550 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม กระแสดังกล่าวไม่ได้ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนสถาบันที่มองหาโครงสร้างพื้นฐานที่มั่นคง
ในปีนี้ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ได้เริ่มพิจารณาการยื่นขอจัดตั้งกองทุน ETF ที่มีโซลานาเป็นสินทรัพย์อ้างอิง ปัจจุบัน มีอย่างน้อย 4 ผลิตภัณฑ์การลงทุนที่อยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า สัญญาณนี้อาจบ่งชี้ถึงท่าทีที่เป็นมิตรต่อโซลานามากขึ้นจากหน่วยงานกำกับดูแล
ด้านการเมือง ประธานาธิบดีทรัมป์เคยกล่าวสนับสนุนมีมคอยน์ที่สร้างบนโซลานา ซึ่งอาจช่วยเสริมภาพลักษณ์ของเครือข่ายในหมู่กลุ่มผู้สนับสนุน อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ ETF ที่ได้รับการรับรองจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมที่แท้จริง ช่วยให้สถาบันการเงินสามารถลงทุนในโซลานาผ่านช่องทางที่ได้รับการควบคุม ปัจจุบัน ตลาดคาดการณ์ว่า SEC อาจอนุมัติ ETF ของโซลานาภายในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ โดยแพลตฟอร์มพยากรณ์อย่าง Polymarket ให้โอกาสการอนุมัติสูงถึง 85%
หากกองทุน ETF ของโซลานาได้รับไฟเขียว สถาบันการเงินจะสามารถลงทุนโดยไม่ต้องถือครองสินทรัพย์โดยตรง ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ทำให้โซลานาหลุดพ้นจากภาพลักษณ์ของแพลตฟอร์มมีมคอยน์ และได้รับการยอมรับในฐานะโครงสร้างพื้นฐานที่เสถียรสำหรับแอปพลิเคชันทางการเงิน
นอกจากนี้ โซลานากำลังขยายบทบาทในอุตสาหกรรมการชำระเงิน ปัจจุบัน มูลค่าของสเตเบิลคอยน์ที่หมุนเวียนอยู่บนเครือข่ายมีมากกว่า 12,000 ล้านดอลลาร์ และโซลานาเพย์(Solana Pay) ซึ่งเป็นโซลูชันการชำระเงินของเครือข่ายกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ด้วยค่าธรรมเนียมต่ำและความเร็วในการทำธุรกรรมสูง โซลานาอาจกลายเป็นตัวเลือกใหม่สำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
เป้าหมายระยะยาวของโซลานาคือการเป็นศูนย์กลางของตลาดทุนแบบออนเชน การได้รับอนุมัติ ETF อาจเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้โซลานาได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนสถาบัน และเสริมสร้างสถานะเป็นเครือข่ายบล็อกเชนสำหรับการเงินในอนาคต ตลาดยังคงจับตามองว่า โซลานาจะสามารถเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์จาก ‘เชนแห่งมีมคอยน์’ ไปสู่โครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่มั่นคงได้หรือไม่
ความคิดเห็น 0