Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บิตคอยน์คอร์ v30 จุดชนวนถกเถียงครั้งใหญ่ นักพัฒนาเตือนเสี่ยงละเมิดกฎหมายร้ายแรง

บิตคอยน์คอร์ v30 จุดชนวนถกเถียงครั้งใหญ่ นักพัฒนาเตือนเสี่ยงละเมิดกฎหมายร้ายแรง / Tokenpost

ซอฟต์แวร์เวอร์ชันถัดไปของบิตคอยน์(BTC) ที่มีชื่อว่า *บิตคอยน์คอร์ v30* กลายเป็นศูนย์กลางของการถกเถียงที่ร้อนแรงในชุมชนบิตคอยน์ โดยแม้จะมีกำหนดเปิดตัวในเดือนตุลาคมนี้ แต่กลับมีนักพัฒนาแสดงความกังวลเกี่ยวกับ *ประเด็นความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน* พร้อมเตือนว่าการอัปเกรดครั้งนี้อาจเปิดช่องให้เกิดการละเมิดทางกฎหมายและจริยธรรมในระดับร้ายแรง

ประเด็นดังกล่าวถูกจุดชนวนโดยนักพัฒนาหลักของโครงการบิตคอยน์โนตส์ อย่าง *ลุค แดชจูร์(Luke Dashjr)* ซึ่งโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดีย X ว่า *คอร์ v30 อาจถูกนำไปใช้ในการยืนยัน, จัดเก็บ และกระจายสื่อลามกอนาจารเด็ก (CSAM)* โดยเขาระบุชัดว่า "การรันเวอร์ชันนี้ก็ไม่ต่างจากการสนับสนุนคอนเทนต์ดังกล่าว" พร้อมเตือนว่า หากข้อมูลลักษณะนี้ถูกฝังอยู่ในบล็อกเชน *โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องมือพิเศษในการเข้าถึง* ก็อาจหมายถึงการ *ทำลายอนาคตของบิตคอยน์* โดยสิ้นเชิง

กระนั้น นักพัฒนาชื่อดังอีกคนอย่าง *จิมมี ซง(Jimmy Song)* กลับไม่เห็นด้วย โดยเขาออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า แดชจูร์กำลังสร้าง *กระแสกลัวเกินจริง (FUD)* พร้อมย้ำในวิดีโอชี้แจงว่า แม้จะมีความเสี่ยงในทางทฤษฎี แต่ *ตัวโนดไม่ได้แสดงคอนเทนต์ที่เป็นภาพหรือวิดีโอโดยตรง* ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้งานตัวคอร์ v30 ไม่ได้มีส่วนในการแพร่กระจายสิ่งผิดกฎหมายโดยตรงแต่อย่างใด

การกล่าวอ้างจากทั้งสองฝ่ายทำให้ชุมชนบิตคอยน์เกิดการแตกความคิดเห็นอย่างชัดเจน โดยผู้ใช้บางคนแสดงความเห็นด้วยกับแดชจูร์ เชื่อว่าต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเสี่ยงด้านกฎหมายอย่างจริงจัง ขณะที่อีกฝ่ายกลับมองว่าเป็นการ *ใช้ประเด็น CSAM มาบิดเบือนเพื่อต่อต้านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี* และชี้ว่าคุณสมบัติ *ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลบนบล็อกเชน* ถือเป็นทั้งจุดแข็งและความท้าทายของบิตคอยน์

*บิตคอยน์คอร์* คือซอฟต์แวร์มาตรฐานที่ผู้ใช้โหนดทั่วโลกนำมาใช้งาน ทั้งในด้านการตรวจสอบธุรกรรมและเป็นกระเป๋าเงินดิจิทัล โดยคอร์ v30 มีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงระบบเดิมและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ แต่ก็มีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าการเปลี่ยนแปลงในระดับแกนหลักเช่นนี้ อาจก่อให้เกิด *ความเสี่ยงทั้งเชิงเทคนิคและกฎหมาย* ที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

ปัญหาครั้งนี้จึงไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่เรื่องการอัปเดตซอฟต์แวร์ หากแต่โยงไปถึงการตั้งคำถามต่อ *ทิศทางและอุดมการณ์ของบิตคอยน์ในอนาคต* ว่าจะเดินไปในแนวทางใด หากชุมชนขาดการมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึง ความขัดแย้งภายในก็อาจยิ่งรุนแรงขึ้น ทั้งนี้สภาพการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้จึงเป็นสัญญาณว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการ *ถกเถียงอย่างจริงจัง* ระหว่างผู้ใช้ นักพัฒนา และหน่วยงานภาครัฐ ก่อนที่บิตคอยน์จะก้าวไปสู่จุดเปลี่ยนที่สำคัญอีกครั้ง

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1