สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) อยู่ระหว่างการพิจารณาแผนการอนุญาตให้มีการซื้อขาย *หลักทรัพย์แบบโทเคน(Tokenized Equities)* ซึ่งเป็นการนำหุ้นของบริษัทมาแปลงให้อยู่ในรูปแบบของโทเคนดิจิทัลบน *แพลตฟอร์มคริปโตที่ได้รับการรับรองบางแห่ง* โดยการเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่การซื้อขายหุ้นจะสามารถเกิดขึ้นบนตลาดแลกเปลี่ยนคริปโตได้โดยตรง
รายงานเมื่อวันที่ 24 จากสำนักข่าว The Information ระบุว่า โครงการดังกล่าวยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น แต่สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองภายในของ SEC ที่เริ่มตระหนักถึงศักยภาพของ *“การโทเคนทรัพย์สิน”* ในการสร้างนวัตกรรมใหม่ให้แก่ตลาดการเงิน โดย พอล แอ็ตกินส์(Paul Atkins) ประธาน SEC ได้เน้นย้ำว่า *โทเคนทรัพย์สินควรได้รับการสนับสนุน มากกว่าจะถูกควบคุมเข้มงวด* พร้อมเสริมว่าโทเคนสามารถ *เปิดโอกาสเข้าถึงการลงทุนที่กว้างขึ้น และลดต้นทุนการทำธุรกรรม* อย่างมีนัยสำคัญ
ทิศทางนี้ยังสะท้อนผ่านในภาคเอกชนเช่นกัน โดย แพลตฟอร์มอย่างโรบินฮูด(Robinhood) และคราเคน(Kraken) เริ่มเสนอบริการซื้อขายหุ้นในรูปแบบโทเคนแล้ว ในขณะที่ แนสแด็ก(Nasdaq) ได้ยื่นคำร้องต่อ SEC เพื่อขอปรับปรุงข้อบังคับให้รองรับการจดทะเบียนหลักทรัพย์แบบโทเคนโดยเฉพาะ ขณะที่คอยน์เบส(Coinbase) ก็อยู่ระหว่างหารือกับหน่วยงานกำกับเพื่อขอใบอนุญาตที่เกี่ยวข้อง
ในวันเดียวกัน SEC ยังระบุอย่างชัดเจนว่า *โทเคนที่ใช้ในโครงสร้างพื้นฐานแบบกระจายศูนย์ (DePIN)* จะไม่ได้ถูกกำกับดูแลภายใต้ข้อบังคับแยกต่างหาก โดย DePIN หมายถึงโทเคนที่สนับสนุนระบบบริการที่ไม่มีศูนย์กลาง เช่น พื้นที่จัดเก็บข้อมูล, เซิร์ฟเวอร์, หรือระบบสื่อสารผ่านบล็อกเชน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า SEC กำลังเปิดกว้างต่อการกำกับดูแลที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นสำหรับโทเคนในบางประเภท
อีกด้านหนึ่ง บริษัทวีซ่า(V) ก็เปิดเผยความสำเร็จเชิงเทคโนโลยี โดยได้ทดลองระบบ *ชำระเงินระหว่างประเทศแบบเรียลไทม์* ที่ใช้ สเตเบิลคอยน์ USDC และ EURC ซึ่งออกโดยเซอร์เคิล(Circle) ในการทดสอบที่งาน SIBOS 2025 วีซ่าระบุว่า ระบบนี้ช่วยให้ธนาคารไม่จำเป็นต้องเตรียมยอดคงเหลือล่วงหน้าสำหรับธุรกรรมระหว่างประเทศ และสามารถ *โอนเงินข้ามพรมแดนได้แทบจะในทันที*
โปรแกรมนี้มีเป้าหมายชัดเจนในการ *ยกระดับโครงสร้างการจัดการกระแสเงินสดขององค์กรธุรกิจ* ให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย คริส นิวเคิร์ก(Chris Newkirk) หัวหน้าฝ่ายธุรกิจเชิงพาณิชย์ของวีซ่า กล่าวย้ำว่า “การชำระเงินข้ามพรมแดนเคยติดอยู่ภายใต้ระบบเก่า แต่ด้วยนวัตกรรมนี้ เงินสามารถเคลื่อนที่ได้ทุกที่ทั่วโลกในทันที และเปิดทางเลือกใหม่ในการบริหารเงินแก่ภาคธุรกิจ”
ความเคลื่อนไหวทั้งจาก *SEC* และ *วีซ่า* ต่างชี้ให้เห็นแนวโน้มร่วมกันว่า *เส้นแบ่งระหว่างการเงินแบบดั้งเดิมกับสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังถูกลบทิ้ง* ความพยายามอย่างต่อเนื่องในสมัยทรัมป์จนถึงรัฐบาลไบเดน แสดงให้เห็นว่าการถกเถียงเรื่องกฎระเบียบสำหรับคริปโตในสหรัฐฯ กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคของ *การบูรณาการทางเทคโนโลยีมากกว่าการควบคุมล้วนๆ* อย่างชัดเจน
ความคิดเห็น 0