ตลาดคริปโตต้องหยุดชะงักชั่วคราว เมื่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ(SEC) ได้ร้องขอให้มีการถอนคำขอจัดตั้งกองทุน ETF ที่อ้างอิงกับเหรียญทางเลือกอย่าง ริปเปิล(XRP), โซลานา(SOL), คาร์ดาโน(ADA), ดอจคอยน์(DOGE) และไลต์คอยน์(LTC) กลับ ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มกังวลต่อนโยบายที่เข้มงวดยิ่งขึ้นของ SEC เหตุการณ์นี้ถูกวิเคราะห์ว่าเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การกำหนดมาตรฐานใหม่เพื่อผลักดันทิศทางการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบกองทุนให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
โดยผู้จัดตั้ง ETF ส่วนใหญ่เตรียมทยอยถอนเอกสาร ‘19b-4’ ตั้งแต่สัปดาห์นี้ ซึ่งหมายความว่า การขออนุมัติในอนาคตจะต้องผ่านเกณฑ์ที่เข้มงวดกว่าเดิม โดยเฉพาะการพิสูจน์ว่าเหรียญนั้นเข้าข่ายเป็น ‘สินค้าโภคภัณฑ์’ เช่น ต้องมีสัญญาฟิวเจอร์สที่จดทะเบียนในตลาดภายใต้การดูแลของคณะกรรมการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐ(CFTC) ซึ่งหากผ่านเงื่อนไขนี้ได้จริง การอนุมัติ ETF อาจใช้เวลาน้อยลงมาก
ขณะเดียวกัน แวดวงนักเทรดได้เห็นความเสียหายครั้งใหญ่จาก ‘qwatio’ เทรดเดอร์ที่มีชื่อเสียงภายใต้แพลตฟอร์มไฮเปอร์ลิควิด(Hyperliquid) ที่ตัดสินใจเทรดสวนราคาด้วยตำแหน่งชอร์ตริปเปิล มูลค่ากว่า *113.85 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,581 ล้านบาท)* พร้อมลงเงินเพียง *7.5 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,043 ล้านบาท)* เป็นมาร์จิ้น และใช้เลเวอเรจสูงถึง 40 เท่ากับบิตคอยน์(BTC) โดยโครงสร้างความเสี่ยงดังกล่าวทำให้เมื่อราคา *ริปเปิลทะลุจาก 2.71 ดอลลาร์เป็น 3.06 ดอลลาร์* บัญชีของเขาก็ถูกบังคับปิดสถานะทันที ผลสุดท้าย ขาดทุนรวมกว่า *3.44 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 478 ล้านบาท)*
ด้านความคิดเห็นจากสื่อกระแสหลัก กรณีของ *จิม เครเมอร์(Jim Cramer)* พิธีกรจาก CNBC ก็กำลังสร้างกระแสถกเถียง หลังออกมาทวีตบน X (ชื่อเดิม Twitter) สนับสนุนให้ ‘ซื้อคริปโต’ ในช่วงที่หนี้สาธารณะสหรัฐ *ทะลุ 37.6 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 52.2 ล้านล้านล้านบาท)* เขายังแนบภาพ ‘นาฬิกาหนี้’ เพื่อเน้นย้ำความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ความเห็นของเครเมอร์มักถูกนำไปตีความในทางตรงกันข้าม ทำให้ชุมชนคริปโตมีทั้งผู้ที่ให้การสนับสนุนและผู้ที่เห็นว่าไม่ควรให้ความสนใจเลย
นักลงทุนบางกลุ่มเริ่มกลับมาให้ความสำคัญกับคริปโตในฐานะ ‘เครื่องมือหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเศรษฐกิจมหภาค’ ขณะที่อีกกลุ่มยังตั้งคำถามว่าคริปโตสามารถเป็นทางเลือกที่แท้จริงในระบบการเงินที่ผันผวนนี้หรือไม่
ภาพรวมสถานการณ์ในตอนนี้สะท้อนให้เห็นว่า การเคลื่อนไหวด้านกฎระเบียบของ SEC, การเทรดที่มีเลเวอเรจสูงเกินไป และคำพูดจากสาธารณชนที่มีอิทธิพล ยังคงสร้างแรงกระเพื่อมต่อสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างมาก ‘คำสำคัญ’ สำหรับนักลงทุนในช่วงนี้คือการติดตามทิศทางกฎหมาย, ความเสี่ยงจากกลยุทธ์เทรด และอารมณ์ของตลาดที่ผันผวนตลอดเวลา
ความคิดเห็น 0