โรมัน สตอร์ม(Roman Storm) ผู้ร่วมก่อตั้งทอร์นาโดแคช(Tornado Cash) ได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ยกเลิกคำตัดสินโทษทางอาญาหนึ่งเดียวที่เขาได้รับ โดยระบุว่า อัยการไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเขามีเจตนาช่วยเหลือการนำแพลตฟอร์มมิกซ์คริปโตอย่างทอร์นาโดแคชไปใช้ในทางที่ผิด เมื่อวันที่ 30 กันยายน สตอร์มได้ยื่นเอกสารคำชี้แจงต่อศาลเขตทางตอนใต้ของนิวยอร์ก ซึ่งอาจถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการต่อสู้ทางกฎหมายที่กำลังดำเนินอยู่
ในเอกสารดังกล่าว ทีมกฎหมายของสตอร์มชี้ว่า การที่อัยการอ้างว่าสตอร์มมีความเชื่อมโยงกับ ‘ผู้ใช้ที่มีเจตนาไม่ดี’ เป็นเพียงการสันนิษฐานจากข้อเท็จจริงที่ว่าเขารู้ถึงการใช้งานเหล่านั้น แต่ไม่ได้ดำเนินมาตรการป้องกันอย่างเพียงพอ ซึ่งเป็นเพียง ‘ความประมาทเลินเล่อ’ ไม่ถึงขั้น ‘จงใจ’ ตามกรอบของกฎหมาย และยืนยันว่า *“สตอร์มไม่มีเจตนาอย่างชัดเจนที่จะช่วยเหลือผู้ที่ใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด”* นับเป็นประเด็นหลักในการยื่นขอยกเลิกคำตัดสินครั้งนี้
ฝ่ายกฎหมายของสตอร์มกล่าวว่า *“รัฐบาลพยายามใช้ความล้มเหลวในการป้องกันการใช้เทคโนโลยีในทางผิดเพื่อพิสูจน์เจตนาอันจงใจของจำเลย”* ซึ่งไม่ได้สอดคล้องกับเกณฑ์ทางกฎหมาย และไม่เพียงพอในด้านตรรกะทางกฎหมาย จุดเปลี่ยนสำคัญของคดีนี้จึงอยู่ที่ว่า ‘นักพัฒนาซอฟต์แวร์’ จะต้องรับผิดชอบทางอาญาหรือไม่ หากรู้ว่าเทคโนโลยีที่ตนพัฒนาอาจถูกนำไปใช้ในทางมิชอบ แต่ไม่ได้ห้ามหรือยับยั้งอย่างชัดเจน
คำร้องขอยกเลิกคำตัดสินมีขึ้นหลังจากกระทรวงกลาโหมและกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ได้เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อทอร์นาโดแคช โดยระบุว่าแพลตฟอร์มนี้ถูกใช้เป็น *ช่องทางในการฟอกเงินให้กับกลุ่มแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือ* ปัจจุบันสตอร์มถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาดำเนินการโอนเงินโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ยังไม่มีคำตัดสินจากคณะลูกขุนในข้อหาเกี่ยวกับการฟอกเงินและละเมิดมาตรการคว่ำบาตร หากคำร้องครั้งนี้ได้รับการอนุมัติ อาจพลิกสถานการณ์ของคดีไปในทิศทางใหม่อย่างมาก
สังคมในแวดวงเทคโนโลยีบล็อกเชนกำลังจับตามองการวินิจฉัยของศาลสหรัฐฯ ครั้งนี้ ว่าจะมีท่าทีอย่างไรต่อ *ความรับผิดชอบทางกฎหมายของนักพัฒนาซอฟต์แวร์บล็อกเชน* และอาจมีอิทธิพลต่อแนวทางกำกับดูแลและออกกฎหมายในอนาคตด้วย
ความคิดเห็น 0