อีเธอเรียม(ETH) พุ่งขึ้นราว 9% ภายในหนึ่งสัปดาห์ แตะระดับ 4,400 ดอลลาร์ (ประมาณ 6.11 ล้านบาท) ท่ามกลางความคาดหวังของนักลงทุน อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญในตลาดเตือนว่าทิศทางต่อไปของ ‘อีเธอเรียม’ จะขึ้นอยู่กับการทะลุแนวต้านสำคัญที่อยู่ใกล้เข้ามา ซึ่งอาจเป็นปัจจัยชี้ชะตาของภาวะตลาดขาขึ้น
ตามข้อมูลจากนักวิเคราะห์ชื่อดังอย่าง อาลี มาร์ติเนซ(Ali Martinez) แนวต้านสำคัญที่อีเธอเรียมกำลังเผชิญอยู่คือระดับ 4,505 ดอลลาร์ (ราว 6.26 ล้านบาท) โดยอ้างอิงจากข้อมูลของ Glassnode ผู้ให้บริการข้อมูลแบบออนเชน พบว่ามีปริมาณเหรียญมากถึง 1.75 ล้าน ETH หรือ 2.25% ของอุปทานหมุนเวียนที่มีการเคลื่อนไหวในช่วงราคาระดับนี้ ซึ่งอาจสร้างแรงขายในระยะสั้นได้ ความกังวลอีกประการหนึ่งคือ หากราคายังไม่สามารถผ่านบริเวณนี้ไปได้ อาจเกิดรูปแบบแนวต้านซ้ำในลักษณะเดียวกับอดีต
ในทางเทคนิค นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งเริ่มมองว่าขณะนี้อีเธอเรียม ‘หลุดพ้นจากช่วงปรับฐานตลอด 3 ปี’ และกำลังสร้างสัญญาณบวกจากรูปแบบกราฟ **‘ถ้วยและหูถ้วย (Cup and Handle)’** โดยเทรดเดอร์อย่าง เมอร์ลายน์(Merlijn The Trader) เชื่อว่ารูปแบบนี้มักเป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้นครั้งใหญ่ พร้อมแสดงความเห็นว่า *“เป้าหมายต่อไปของอีเธอเรียมคือระดับราคาห้าหลัก”* ซึ่งหากประเมินจากโครงสร้างกราฟที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2022 จนถึงต้นปี 2025 ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว กระแสขาขึ้นที่เกิดขึ้นล่าสุดอาจเป็นสัญญาณยืนยันเทรนด์ใหม่
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ ‘EtherNasyonaL’ ยังระบุว่า อีเธอเรียมกำลังแสดงพฤติกรรมที่คล้ายกับตลาดกระทิงในอดีตสองรอบก่อนหน้า (2016–2017 และ 2019–2021) โดยแต่ละครั้งจะมีการทะลุแนวต้านและเปลี่ยนเป็นแนวรับ ก่อนจะเกิดการดีดตัวขึ้นอย่างรุนแรง ซึ่งเขาเชื่อว่า “อีเธอเรียมมีแพทเทิร์นซ้ำเกือบเหมือนกันในทั้งสามวัฏจักรตลาด”
อีกหนึ่งประเด็นที่นักลงทุนจับตามองคือ ศักยภาพเชิงเปรียบเทียบของอีเธอเรียมเทียบกับบิตคอยน์(BTC) โดยนักวิเคราะห์ มิคาเอล ฟาน เดอ พ๊อป(Michaël van de Poppe) เผยว่าค่าอัตราส่วน ETH/BTC มีการปรับฐานและเคลื่อนไหวอยู่ใกล้แนวรับที่สำคัญ พร้อมเสนอความคิดเห็นว่า *“นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของรอบตลาดขาขึ้นฝั่งอัลท์คอยน์”* ซึ่งหากเป็นไปตามแนวโน้มอดีต อีเธอเรียมและเหรียญทางเลือกอื่นๆ มักจะปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากที่ ‘บิตคอยน์ฟื้นตัว’
โดยรวมแล้ว อีเธอเรียมกำลังส่งสัญญาณบวกจากทุกมิติไม่ว่าจะเป็นเทคนิค ตลาดโครงสร้าง หรือรูปแบบในอดีต อย่างไรก็ตาม แนวต้านที่ระดับ *4,505 ดอลลาร์* ยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่เทรดเดอร์ต้องระวัง เพราะหากทะลุไม่สำเร็จ อาจต้องเจอกับแรงเทขายในระยะสั้นอีกระลอก
ความคิดเห็น 0