บิตคอยน์(BTC) เปิดเดือนตุลาคมด้วยทิศทางราคาที่พุ่งแรง ส่งสัญญาณเชิงบวกให้กับตลาดคริปโตโดยรวม ขณะเดียวกัน ‘พายเน็ตเวิร์ก(Pi Network)’ ก็ประกาศอัปเดตระบบครั้งสำคัญเพื่อเร่งการขยายระบบนิเวศของตน และริปเปิล(XRP) ก็ไม่ยอมน้อยหน้าด้วยการส่งสัญญาณขาขึ้นชัดเจน สร้างบรรยากาศคึกคักให้กับวงการคริปโตเคอร์เรนซี
เมื่อวันที่ 24 ที่ผ่านมา Dr. เฉิงเตียว ฟาน(Chengdiao Fan) ผู้ร่วมก่อตั้งพายเน็ตเวิร์ก ได้เปิดตัวระบบซื้อขายแบบกระจายศูนย์ (DEX) และพูลสภาพคล่อง (AMM) บนเครือข่ายทดลอง (testnet) ในเวทีสัมมนา TOKEN2049 ที่จัดขึ้นในประเทศสิงคโปร์ โดยฟีเจอร์ใหม่เหล่านี้ มุ่งเน้นให้เหล่านักพัฒนาและผู้ใช้งานที่รู้จักในชื่อ ‘ไพโอเนียร์’ สามารถฝึกฝนการใช้งานด้านดีไฟ (DeFi) ก่อนที่เครือข่ายหลัก (mainnet) จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ฟานระบุว่า จะมีการเผยแพร่คู่มือฉบับสมบูรณ์ให้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
นอกจากนี้ พายเน็ตเวิร์กยังประกาศสิ้นสุดการประมูลโดเมน .pi ที่เริ่มมาตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน โดยมีการระบุว่า โดเมนที่มีการประมูลล่าสุดก่อนหมดเวลากำหนด จะได้รับการต่อเวลาอีก 24 ชั่วโมงโดยอัตโนมัติ กิจกรรมนี้ถูกจัดขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างอัตลักษณ์เฉพาะตัวภายในระบบนิเวศ และเพิ่มความสะดวกในการทำธุรกรรม
ด้านราคาของบิตคอยน์ ล่าสุดทะลุแนวต้านสำคัญที่ 121,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.68 ล้านบาท) ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม โดยในการซื้อขายล่าสุด ราคายืนอยู่ที่ราว 120,300 ดอลลาร์ (ราว 1.67 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นประมาณ 10% ภายในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ *คำสำคัญ* ของปรากฏการณ์นี้รวมถึงความกังวลเรื่อง ‘ชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐ’, กระแสเชิงบวกจากเทรดเดอร์ที่เรียกว่า ‘Uptober’ และการสะสมเหรียญของนักลงทุนระยะยาวอย่างต่อเนื่อง
อ้างอิงจาก อาลี มาร์ติเนซ(Ali Martinez) นักวิเคราะห์ข้อมูลออนเชน ระบุว่า นักลงทุนระยะยาวได้สะสมบิตคอยน์กว่า 3,800 BTC ตลอดเดือนที่ผ่านมา ขณะที่ในช่วง 48 ชั่วโมงล่าสุด กลุ่มวาฬลงทุนได้เข้าซื้อบิตคอยน์เพิ่มอีก 30,000 BTC คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3.6 พันล้านดอลลาร์ (ราว 5 ล้านล้านวอน) ทั้งนี้ การสะสมจำนวนมากอาจส่งผลให้ปริมาณการหมุนเวียนลดลง และเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาขยับสูงขึ้นอีก
ทางฝั่งริปเปิล(XRP) ก็ไม่น้อยหน้า โดยราคาพุ่งทะลุแนว 3 ดอลลาร์ (ราว 4,170 บาท) และยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้น มาร์ติเนซวิเคราะห์ว่า XRP สามารถไต่ไปถึง 3.60 ดอลลาร์ (ประมาณ 5,004 บาท) ได้หากผ่านแนวต้านรูปแบบสามเหลี่ยม (triangle pattern) ที่กำลังเผชิญอยู่
ความเห็นจากนักวิเคราะห์ยังพบมุมมองที่ยิ่งกว่าเดิม เช่น ไคล์ ค็อบบ์(Cobb) คาดว่า XRP มีโอกาสแตะระดับ 6.32 ดอลลาร์ (ราว 8,791 บาท) ภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญอีกคนอย่าง อาโมนิกซ์(Amonyx) มองว่าราคาสูงสุดอาจแตะ 20 ดอลลาร์ (ราว 27,800 บาท) ได้
แม้จะมีการคาดการณ์เชิงบวก แต่*ความคิดเห็น*จากนักลงทุนบางรายเตือนว่า RSI (Relative Strength Index) ของ XRP เข้าใกล้ระดับ 70 ซึ่งสะท้อนว่าเหรียญอาจเข้าสู่ช่วง ‘ซื้อเกินไป’ และต้องเตรียมตัวสำหรับการปรับฐานระยะสั้น
เมื่อมองภาพรวม บิตคอยน์, พายเน็ตเวิร์ก และริปเปิล ต่างได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากตลาดในช่วงนี้ แต่สิ่งที่ต้องจับตาต่อไปคือ ทิศทางของกฎระเบียบระดับโลกและแนวโน้มเศรษฐกิจ ที่อาจส่งผลชี้ชะตาต่อการเดินหน้าของสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0