บิตคอยน์(BTC) ราคาพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง จนเกิดการทำกำไร (realized profit) มูลค่าสูงเป็นอันดับห้าของปี โดยข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชนชื่อดังอย่างคริปโตควอนต์(CryptoQuant) ระบุว่า ในช่วงเวลาเพียง 1 วัน มูลค่าการทำกำไรของนักลงทุนจากบิตคอยน์สูงถึงประมาณ 3.7 พันล้านดอลลาร์ หรือกว่า 5.14 หมื่นล้านบาท
ขณะตลาดการเงินทั่วโลกกำลังเผชิญแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับ *การปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ* (Government Shutdown) ราคาบิตคอยน์กลับดีดตัวสวนกระแส โดยปรับขึ้นสูงสุดในวันเดียวถึง 118,718 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.65 ล้านบาท) ก่อนจะอ่อนตัวลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 113,975 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.58 ล้านบาท) แล้วจึงกลับตัวขึ้นอีกครั้ง ปัจจุบัน BTC ซื้อขายอยู่ที่ราว 119,588 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.66 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 1.96% ภายใน 24 ชั่วโมง และบวกถึง 7.2% ในรอบสัปดาห์
ความเคลื่อนไหวนี้ส่งผลให้บิตคอยน์ปรับตัวขึ้นแล้วกว่า 25% นับตั้งแต่ต้นปี ทำให้สถาบันการเงินในวอลล์สตรีท และบริษัทลงทุนระดับโลก เริ่มเข้ามาประเมิน BTC ว่าเป็น ‘สินทรัพย์ทางเลือกที่เชื่อถือได้’ มากยิ่งขึ้น
คริปโตควอนต์วิเคราะห์ว่า การทำกำไรในระดับสูงเช่นนี้ อาจเพิ่มแรงกดดันระยะสั้นในตลาดสปอต (Spot Market) ของบิตคอยน์ แต่จากโครงสร้างตลาดในปัจจุบันยังไม่พบว่า *นักลงทุนระยะสั้น* มีอิทธิพลเหนือภาพรวมตลาดมากนัก ดังนั้น แนวโน้มขาขึ้นของราคาน่าจะยังคงอยู่ โดยแนวต้านสำคัญถัดไปอยู่ที่ 124,533 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.73 ล้านบาท) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตลอดกาล (ATH) ที่ทำไว้เมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
หนึ่งในปัจจัยหนุนราคาบิตคอยน์คือ *ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐ* โดยเมื่อการเจรจางบประมาณระหว่างสองพรรคไม่สามารถหาข้อยุติได้ ความเสี่ยงต่อการปิดหน่วยงานรัฐทำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยงแบบเดิม และหันมาเก็บสะสมคริปโตมากขึ้น โดยเฉพาะ BTC ที่มองว่าเป็น ‘เครื่องมือในการเก็บมูลค่า’
นอกจากนี้ คริปโตควอนต์ยังตั้งข้อสังเกตว่า แม้อาจมีการทำกำไรเพิ่มขึ้นในช่วงสัปดาห์หน้า แต่สถานการณ์ดังกล่าวถือเป็น ‘การปรับฐานตามธรรมชาติ’ ภายใต้แนวโน้มขาขึ้นในระยะกลางถึงยาว ซึ่งตลาดยังมีกำลังซื้อเพียงพอรับมือแรงขายเหล่านี้ได้ คำว่า ‘ตลาดกระทิง’ สำหรับบิตคอยน์จึงยังไม่หลุดลอย
สรุปแล้ว บิตคอยน์กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้แนวต้านสูงสุดอีกครั้ง และการสร้างจุดสูงสุดใหม่ในเดือนนี้ อาจกลายเป็น ‘จุดเปลี่ยนสำคัญ’ ที่ต้องจับตา โดยเฉพาะหาก *ความไม่แน่นอนของตลาดการเงินแบบดั้งเดิมยังคงอยู่* ความน่าสนใจเชิงเปรียบเทียบของ BTC ก็มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ความคิดเห็น 0