ตลาดบิตคอยน์(BTC) ยังคงแสดงแนวโน้มขาขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนจับตา *เหตุการณ์หมดอายุของออปชันมูลค่าเกือบ 4.7 ล้านล้านวอน* ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในวันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม โดยเชื่อว่าอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาด โดยเฉพาะเมื่อ *ออปชันของอีเธอเรียม(ETH)* กำลังจะหมดอายุพร้อมกัน ทำให้บรรยากาศการลงทุนเกิดความซับซ้อนยิ่งขึ้น
ในรอบนี้จะมีสัญญาออปชันของบิตคอยน์ราว 28,000 สัญญาที่จะหมดอายุ คิดเป็นมูลค่าราว 3.37 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.7 ล้านล้านวอน) ซึ่งถือว่าไม่ใหญ่เมื่อเทียบกับช่วงสิ้นไตรมาสก่อนหน้า *ความคิดเห็น: ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมองว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดสปอตในระดับจำกัด* โดยเฉพาะเมื่อราคาบิตคอยน์ยังได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย ทำให้แรงต้านของราคาในระยะสั้นแข็งแกร่งขึ้น
สำหรับสัญญาออปชันที่ใกล้หมดอายุในสัปดาห์นี้ อัตราส่วน ‘พุต-คอล’ อยู่ที่ 1.1 แสดงถึงความสมดุลระหว่างนักลงทุนที่คาดการณ์ขาขึ้นและขาลง จุด ‘ความเจ็บปวดสูงสุด’ ที่คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวมากที่สุดคือที่ระดับ 115,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.98 ล้านบาท) บนแพลตฟอร์มอนุพันธ์เดอรีบิต(Deribit) พบว่า *สัญญาคงค้าง(open interest)* สูงสุดอยู่ที่ระดับ 120,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 16.68 ล้านบาท) มูลค่ารวมกว่า 2.2 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.06 ล้านล้านวอน) ในขณะที่ระดับ 140,000 ดอลลาร์และ 100,000 ดอลลาร์ ก็มีสัญญาคงค้างมูลค่าสูงถึง 1.9 พันล้านดอลลาร์ และ 1.6 พันล้านดอลลาร์ ตามลำดับ
แม้ปริมาณสัญญาคงค้างรวมของบิตคอยน์จะลดลงเล็กน้อยเหลือราว 49 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 68.11 ล้านล้านวอน) แต่ในตลาดฟิวเจอร์ส ตัวเลขยังคงสูงถึง 86.5 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 120.24 ล้านล้านวอน) ซึ่งอยู่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ *ความคิดเห็น: ชี้ให้เห็นถึงความต้องการจากนักลงทุนสถาบันที่ยังคงแข็งแกร่งในตลาดอนุพันธ์*
ในฝั่งของตลาด ETF แบล็คร็อก(BlackRock) ยังคงครองความเป็นผู้นำ โดย ETF อย่าง IBIT ได้แซงหน้าแพลตฟอร์มเดอรีบิต จนกลายเป็น ‘แพลตฟอร์มที่มีปริมาณการซื้อขายออปชันบิตคอยน์มากที่สุด’ ตามการประเมินของนักวิเคราะห์ ETF ชื่อ เอริก บัลชูนาส(Eric Balchunas) ปัจจุบัน IBIT มีสัญญาคงค้างราว 38 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 52.82 ล้านล้านวอน)
ด้านอีเธอเรียมจะมีการหมดอายุของสัญญาออปชันราว 216,000 สัญญาในวันเดียวกัน รวมมูลค่าประมาณ 987 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.37 ล้านล้านวอน) โดยมี ‘จุดความเจ็บปวดสูงสุด’ อยู่ที่ 4,200 ดอลลาร์ (ประมาณ 583,000 บาท) อัตราส่วนพุต-คอล อยู่ที่ 0.93 ซึ่งสะท้อนถึง *แนวโน้มในเชิงบวกที่ได้เปรียบเล็กน้อย* โดยสัญญาคงค้างรวมทั้งหมดของ ETH อยู่ที่ 13.5 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 18.76 ล้านล้านวอน) รวมกับ BTC แล้วคิดเป็นมูลค่ารวมราว 4.3 หมื่นล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 5.98 ล้านล้านวอน)
บรรยากาศโดยรวมในตลาดคริปโตเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดย *บิตคอยน์พุ่งขึ้นกว่า 10% ในสัปดาห์นี้* โดยเมื่อวันพฤหัสบดี ราคาได้ทะลุระดับ 121,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 16.82 ล้านบาท) ชั่วคราว ก่อนจะปรับฐานมาอยู่ที่ 120,000 ดอลลาร์ในช่วงเช้าวันศุกร์ ขณะที่อีเธอเรียมก็ฟื้นกลับมาอยู่เหนือระดับ 4,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 625,000 บาท) ส่วน BNB ก็ขยับขึ้นใกล้ระดับสูงสุดที่ 1,100 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.53 แสนบาท)
*ความคิดเห็น: การหมดอายุของออปชันในรอบนี้และการฟื้นตัวของตลาดอาจกลายเป็นแรงผลักดันเชิงบวกต่อทั้งตลาดคริปโต* อย่างไรก็ตาม ด้วยระดับความผันผวนที่ยังคงสูง ผู้ลงทุนควรเฝ้าระวังปัจจัยภายนอก เช่น นโยบายดอกเบี้ย, ตัวเลขเศรษฐกิจมหภาค, และกระแสเงินทุนใน ETF อย่างใกล้ชิดในช่วงต่อจากนี้
ความคิดเห็น 0