ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) จะอนุมัติ *อีทีเอฟแบบซื้อขายตามราคาในตลาด (ETF) ของริปเปิล(XRP)* บริษัทออกหลักทรัพย์หลายรายได้เร่งเดินหน้าแก้ไขแบบฟอร์ม S-1 เพื่อเร่งขั้นตอนการขออนุมัติ โดยหลายฝ่ายคาดการณ์ว่า SEC อาจมีคำตัดสินเกี่ยวกับ ETF ฉบับนี้ในเดือนตุลาคม ซึ่งทำให้สายตาทั้งตลาดจับจ้องไปยังการตัดสินใจครั้งสำคัญของหน่วยงานกำกับดูแล
ขณะนี้มี ETF ของริปเปิล(XRP) ทั้งหมด 6 ฉบับที่ยื่นขออนุมัติกับ SEC ได้แก่ กองทุนจากเกรย์สเกล(Grayscale), 21เชร์ส(21Shares), บิตไวซ์(Bitwise), แคเนอรี แคปิทัล(Canary Capital), วิสดอมทรี(WisdomTree) และคอยน์แชร์ส(CoinShares) โดยเมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทเหล่านี้ได้ทำการแก้ไขแบบฟอร์ม S-1 ซึ่งระบุรายละเอียดของกองทุนและโครงสร้างผลิตภัณฑ์ ในมุมมองของนักวิเคราะห์ ถือเป็นสัญญาณว่า SEC เริ่มต้นกระบวนการพิจารณาอย่างจริงจังแล้ว
เนธ เจราซี(Nate Geraci) ประธานบริษัทโนวาดิอุส เวลธ์(NovaDius Wealth) ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล ให้ *ความคิดเห็น* ว่า “การที่แบบฟอร์ม S-1 มีการระบุ *สัญลักษณ์ซื้อขาย (Ticker Symbol)* แล้ว ถือเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาและบ่งบอกได้ว่า การอนุมัติกำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้” ทั้งนี้เกรย์สเกลได้เปลี่ยนชื่อสัญลักษณ์เป็น ‘GXRP’ เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเปิดตัวกองทุนอย่างจริงจัง
อย่างไรก็ตาม กระบวนการอนุมัติของ SEC ยังเต็มไปด้วย *ความไม่แน่นอน* โดยเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมารัฐบาลสหรัฐฯ มีการ ‘ชัตดาวน์’ ซึ่งส่งผลให้ SEC ไม่สามารถดำเนินการตามกำหนดการพิจารณา ETF ได้ตามปกติ ทำให้การตรวจสอบเอกสารบางส่วนล่าช้า อีลีเนอร์ เทอเร็ต(Eleanor Terrett) นักข่าวสายคริปโทเปิดเผยว่า “SEC ดำเนินงานด้วยจำนวนพนักงานจำกัด ทำให้กระบวนการอนุมัติกองทุนล่าช้า รวมถึงการลงนามสุดท้ายในแบบฟอร์ม S-1 ก็ถูกผลักออกไป” ขณะเดียวกัน SEC ยังได้ขอให้ผู้ออกกองทุนถอนใบสมัคร 19b-4 ทั้งหมด เพื่อดำเนินการจัดทำมาตรฐานใหม่สำหรับการจดทะเบียน ETF ซึ่งกลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การอนุมัติถูกเลื่อนออกไปอีก
แตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ *XRP ETF* ได้รับการจัดประเภทเป็นทรัสต์สินทรัพย์โภคภัณฑ์ (Commodity Trust) ภายใต้ข้อบังคับของกฎหมายหลักทรัพย์ปี 1933 และไม่สามารถซื้อขายในตลาดได้หากยังไม่ได้รับการอนุมัติจาก SEC แบบฟอร์ม S-1 อย่างเป็นทางการ ดังนั้น ETF เหล่านี้จะสามารถเข้าสู่ตลาดได้อย่างจริงจังก็ต่อเมื่อรัฐบาลกลับมาดำเนินการตามปกติเท่านั้น
หาก *XRP ETF* ได้รับอนุมัติ จะนับเป็นอีกหนึ่ง *เกมเชนเจอร์* ถัดจาก *บิตคอยน์(BTC) ETF* ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าอาจเปิดทางให้ความต้องการริปเปิล(XRP) จากสถาบันเพิ่มสูงขึ้น และช่วยกระตุ้นปริมาณการซื้อขายในตลาดที่ได้รับอนุญาต นักลงทุนคริปโทกำลังจับตาดูความเคลื่อนไหวของ SEC อย่างใกล้ชิด เพื่อรอฟังข่าวการตัดสินใจที่อาจมีขึ้นภายในเดือนตุลาคมนี้
ความคิดเห็น 0