บรรยากาศการค้าระหว่าง *สหรัฐฯ* และ *จีน* เริ่มมีสัญญาณผ่อนคลายหลังเผชิญความตึงเครียดมาหลายเดือน โดยเมื่อวันที่ 23 (เวลาท้องถิ่น) รัฐบาลทั้งสองประเทศออกแถลงการณ์ที่เน้นความพร้อมในการเจรจา ซึ่งอาจนำไปสู่ความคืบหน้าในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ด้านการค้า และส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนทั่วโลก
กระทรวงพาณิชย์ของจีนประกาศว่า *จีนพร้อมเจรจาอย่างจริงจัง* เกี่ยวกับประเด็นการควบคุมการส่งออก ‘แร่หายาก’ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘รีแรร์เอิร์ธ’ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่เคยสร้างความขัดแย้ง โดยจีนระบุเพิ่มเติมว่า *กำลังพิจารณายกเว้นใบอนุญาตส่งออก* เพื่อบรรเทาปัญหาห่วงโซ่อุปทานระดับโลก ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงจุดยืนที่อ่อนลงของจีนและนับเป็นครั้งแรกที่มีการแสดงท่าทีชัดเจนเกี่ยวกับการผ่อนคลายกฎดังกล่าว
ขณะเดียวกัน *ประธานาธิบดีทรัมป์* ได้โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของตนว่า “ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับจีน ทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี” พร้อมกล่าวถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ว่าเป็น “ผู้นำที่น่ายกย่อง” และทั้งสหรัฐฯ กับจีน *ไม่ต้องการภาวะเศรษฐกิจถดถอย* โดยเขาย้ำว่า “สหรัฐฯ ต้องการช่วยจีน ไม่ใช่ทำร้าย”
แนวโน้มที่ทั้งสองฝ่ายแสดงออกถึงความร่วมมือ ถูกตีความว่าอาจเป็น ‘จุดเปลี่ยน’ ในการผ่อนคลายบรรยากาศตึงเครียดทางการค้า นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งมองว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้ แม้จะยังไม่ส่งผลทันทีต่อตลาด แต่ *อาจฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระยะกลางถึงยาว* ได้อย่างมีนัยสำคัญ
แร่หายากส่งผลต่ออุตสาหกรรมหลักอย่างเซมิคอนดักเตอร์, รถยนต์ไฟฟ้า และเทคโนโลยีด้านกลาโหม อีกทั้งยังมีบทบาทใน ‘เครื่องขุด’ สกุลเงินดิจิทัลอย่าง *บิตคอยน์(BTC)* และ *อีเธอเรียม(ETH)* ทำให้การคลี่คลายปัญหาอุปทานของแร่หายาก อาจช่วย *ลดต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานของการขุดเหรียญ* ในทางอ้อม
แม้ราคาของหลักทรัพย์ดิจิทัลอย่าง *บิตคอยน์(BTC)* และ *อีเธอเรียม(ETH)* ยังไม่มีการตอบรับโดยตรงจากข่าวนี้ แต่มีความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญบางรายชี้ว่า *การลดลงของความไม่แน่นอนเชิงมหภาค* อาจส่งผลบวกต่อบรรยากาศโดยรวมของตลาดคริปโตในที่สุด โดยเฉพาะในแง่ของจิตวิทยาการลงทุน
ความคิดเห็น 0