เทคโนโลยีใหม่ที่อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการเพิ่ม *ความสามารถในการขยายตัวของอีเธอเรียม(ETH)* ได้เปิดตัวแล้ว โดยเมื่อวันที่ 15 แพลตฟอร์มโซลูชันขยายระบบอย่างเบรวิส(Brevis) ได้ประกาศอย่างเป็นทางการถึง *เทคโนโลยี zkEVM รุ่นใหม่* ที่มีชื่อว่า *พิโก พริซึม(Pico Prism)* ซึ่งสามารถทำการพิสูจน์แบบเรียลไทม์ได้ด้วย **การ์ดจอของคอมพิวเตอร์ทั่วไป** ไม่จำเป็นต้องพึ่งอุปกรณ์ราคาแพงระดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์เหมือนเดิม ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ที่สามารถช่วยให้อีเธอเรียมเข้าใกล้เป้าหมาย *ประมวลผลธุรกรรมได้มากกว่า 10,000 รายการต่อวินาที* ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
จากข้อมูลของเบรวิส เทคโนโลยีพิโก พริซึมออกแบบมาเพื่อให้ **การพิสูจน์บล็อกของอีเธอเรียม L1** สามารถรันได้บน GPU ทั่วไป โดยการทดสอบใช้การ์ดจอรุ่นเกมมิ่งระดับสูงของเอ็นวิเดียรุ่น RTX 5090 จำนวน 64 ตัว แทนที่การใช้ระบบประมวลผลระดับสูงเฉพาะทาง นั่นหมายความว่าใครก็สามารถร่วมพิสูจน์บล็อกที่สำคัญในเครือข่ายอีเธอเรียมได้ด้วย *คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะทั่วไป*
ในการทดสอบเมื่อเดือนกันยายน พิโก พริซึมแสดงผลการพิสูจน์แบบ **เรียลไทม์บนบล็อกของอีเธอเรียมที่ใช้ก๊าซประมาณ 4.5 ล้านหน่วย** ได้สำเร็จ ด้วยอัตราการพิสูจน์ได้ถึง *99.6%* และใช้เวลาเพียงไม่ถึง 12 วินาที ซึ่งแปลว่าการพิสูจน์เสร็จสิ้นก่อนการสร้างบล็อกใหม่อีกด้วย ความสามารถในการพิสูจน์ลักษณะนี้ถือเป็น ‘*การพิสูจน์แบบเรียลไทม์ (Real-Time Proving)*’ ที่สามารถสร้างหลักฐานทางคณิตศาสตร์เพื่อยืนยันการทำงานของบล็อกได้รวดเร็วกว่าการประสานข้อมูลโดยตรง พร้อมเพิ่มความมั่นใจในด้าน *ความปลอดภัยของเครือข่าย* และ *ความแน่นอนในการสิ้นสุดธุรกรรม (finality)*
เบรวิสระบุในแถลงการณ์ว่า “นี่ถือเป็นจุดเปลี่ยนอันเป็นสัญลักษณ์ที่สามารถ *เพิ่มความเร็วในการประมวลผลของอีเธอเรียมได้ถึง 100 เท่า* และเปิดทางไปสู่อนาคตที่ผู้ใช้สามารถตรวจสอบเครือข่ายอีเธอเรียมได้แม้จาก *สมาร์ตโฟน* เพียงเครื่องเดียว”
ความคิดเห็น: เทคโนโลยีอย่างพิโก พริซึมอาจกลายเป็นก้าวแรกของการพลิกโฉมอีเธอเรียมให้รองรับการขยายตัวในระดับโลกได้จริง โดยเฉพาะในยุคที่ต้องมีการรองรับผู้ใช้งานมหาศาล
ในมุมของผู้พัฒนา การมาของเทคโนโลยีนี้ช่วยเติมเต็มความหวังให้กับชุมชนอีเธอเรียม ซึ่งเคยติดหล่มเรื่องขีดจำกัดด้านการขยายตัวจากทั้งเงื่อนไขทางกฎหมายและพันธะของการกระจายศูนย์ หากระบบการพิสูจน์แบบเรียลไทม์นี้ได้รับการปรับใช้อย่างแพร่หลาย ก็อาจเป็นตัวเร่งให้ *อีเธอเรียมเติบโตในด้านความสามารถและจำนวนผู้ใช้* ได้อย่างก้าวกระโดด
ความคิดเห็น 0