โลกของการเงินดิจิทัลกำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว โดย ‘บิตคอยน์(BTC)’, ‘อีเธอเรียม(ETH)’ และ ‘ริปเปิล(XRP)’ กำลังก้าวออกจากเงามืดของการเป็นสินทรัพย์ทางเลือก สู่การเป็น ‘สื่อกลางในการแลกเปลี่ยน’ ที่ใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อกาแฟ, บริการการเดินทาง, หรือแม้แต่การชำระสินค้าแบรนด์หรู ทั้งสามเหรียญนี้ต่างมีจุดเด่นเฉพาะตัว — บิตคอยน์ในฐานะ ‘แหล่งเก็บมูลค่า’, อีเธอเรียมในฐานะ ‘แพลตฟอร์มสัญญาอัจฉริยะ’, และริปเปิลในฐานะ ‘ระบบโอนเงินข้ามประเทศที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ’
การซื้อกาแฟด้วยคริปโตเคอร์เรนซี่กลายเป็นเรื่องธรรมดาในสหรัฐ โดยสตาร์บัคส์นำระบบบิทรีฟิล(Bitrefill) และแอปพลิเคชันมาใช้ให้ลูกค้าสามารถซื้อเครื่องดื่มด้วยบิตคอยน์และอีเธอเรียม ขณะที่ร้านสะดวกซื้อชื่อดังอย่าง Sheetz และแอปพลิเคชัน Flexa ต่างก็รองรับเหรียญดิจิทัลเช่นกัน สำหรับ XRP แม้ไม่โดดเด่นในแง่การใช้งานหน้าร้าน แต่กลับมีบทบาทชัดเจนใน ‘ระบบชำระเงินข้ามพรมแดน’
ในภาคอาหารฟาสต์ฟู้ด แมคโดนัลด์บางสาขาในอเมริกาเริ่มรองรับการชำระด้วยบิตคอยน์ผ่านแอป, ส่วน Subway และ Burger King เลือกใช้บัตรของขวัญจากผู้ให้บริการภายนอกเพื่อรองรับการชำระด้วยคริปโต สเต๊กแอนด์เชค(Steak 'n Shake) ได้รายงานการเติบโตของยอดขายกว่า 11% หลังเริ่มใช้งานระบบชำระด้วยบิตคอยน์ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้เชนร้านอาหารชื่อดังอย่างชิโปเล(Burrito) และเบสกิ้นร็อบบินส์ยังเปิดให้ลูกค้าชำระผ่าน BitPay ด้วยทั้ง BTC, ETH และ XRP
แบรนด์ยักษ์ใหญ่ในภาคค้าปลีกก็ทยอยเปิดรับสินทรัพย์ดิจิทัลเช่นกัน AT&T อนุญาตให้ลูกค้าจ่ายค่าสัญญาณด้วยบิตคอยน์และอีเธอเรียม ขณะที่ไมโครซอฟท์(MSFT) เปิดช่องทางให้ซื้อสินค้าดิจิทัลด้วยคริปโต Newegg รองรับอีเธอเรียม, Overstock รองรับ XRP และ Shopify ช่วยให้นักขายออนไลน์สามารถติดตั้งระบบรับคริปโตได้ง่ายดายขึ้น นอกจากนี้ Home Depot(HD) และ IKEA ยังรับการจ่ายเงินทางอ้อมผ่าน BitPay หรือบัตรของขวัญ
ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว แพลตฟอร์มจองตั๋ว Travala รองรับคริปโตหลายสิบชนิดสำหรับจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรม Emirates Airlines ของ UAE เตรียมใช้งานระบบชำระด้วยคริปโตผ่านความร่วมมือกับ Crypto.com ขณะที่ AirBaltic จากลัตเวีย ได้ดำเนินการจองตั๋วด้วยบิตคอยน์ไปแล้วหลายพันรายการ และผู้ให้บริการ Alternative Airlines ที่ร่วมกับสายการบินกว่า 600 แห่งทั่วโลกก็เปิดรับ XRP รวมถึงเหรียญอื่น ๆ รวมกว่า 100 รายการ
ภาคตลาดหรูมีความเคลื่อนไหวชัดเจน โดยตัวแทนจำหน่ายรถหรูในอเมริกา Post Oak Motor Cars เปิดรับบิตคอยน์ในการซื้อรถยุโรป และ BitCars จากยุโรปเปิดตลาดซื้อขายรถหายากด้วยคริปโต นอกจากนี้ แบรนด์หรูอย่างกุชชี่และราล์ฟลอเรนยังเริ่มทดลองใช้ชำระแบบ ‘พรีเมียม’ ด้วยบิตคอยน์และอีเธอเรียมในบางสาขาหลัก
ทางฝั่งองค์กรธุรกิจ XRP ถูกนำมาใช้อย่างจริงจังในระบบโอนเงินระหว่างประเทศ ด้วยข้อได้เปรียบเรื่องความเร็วและค่าธรรมเนียมต่ำ โดยบริษัทอย่าง Mercury FX และ Cuallix เดินหน้าทดลองใช้งานจริงแล้ว ขณะเดียวกัน ผู้ให้บริการชำระเงินอย่าง BitPay, PayPal และ NOWPayments ก็เปิดระบบแปลงเงินอัตโนมัติให้ผู้ค้ารายย่อยรับคริปโตได้อย่างสะดวก ลดความเสี่ยงเกี่ยวกับ ‘ความผันผวนของราคา’
สำหรับด้านการเงินองค์กร บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งเริ่มเพิ่มสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าสู่ *พอร์ตการลงทุน* ของตน บริษัทอย่าง BitMine, SharpLink Gaming และ VivoPower ใช้คริปโตเป็นเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อหรือเป็นสัญญาณการมีส่วนร่วมในเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังเติบโต
ท้ายที่สุดแล้ว ‘บิตคอยน์’, ‘อีเธอเรียม’ และ ‘ริปเปิล’ ไม่ได้เป็นเพียงเทคโนโลยีทดลองอีกต่อไป แต่เป็น *ตัวเลือกการชำระเงินจริง* ที่กำลังมีบทบาทในชีวิตประจำวันของผู้คน การยอมรับคริปโตจากภาคเศรษฐกิจหลากหลายนั้นไม่เพียงเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค แต่ยังชี้ให้เห็นว่า ‘เงินดิจิทัล’ จะเป็นรากฐานในระบบการเงินใหม่ที่กำลังก่อตัวอยู่เช่นกัน
ความคิดเห็น 0