บิตคอยน์(BTC) ร่วงต่ำถึง 103,500 ดอลลาร์ หรือราว 14.37 ล้านบาท เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดการชำระบัญชีใน *ตำแหน่ง Long* ที่ใช้ *เลเวอเรจ* มากถึง 916 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.27 หมื่นล้านบาท ความเคลื่อนไหวนี้ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับจิตวิทยาการลงทุนเป็นอย่างมาก ขณะที่ราคาบิตคอยน์ไม่สามารถยืนเหนือระดับ 110,000 ดอลลาร์ (ราว 15.29 ล้านบาท) ได้ติดต่อกันสองสัปดาห์ ความเชื่อมั่นในทิศทางขาขึ้นจึงเริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัด
นักวิเคราะห์ตลาดหลายรายเริ่มจับตามองว่าแนวโน้มขาขึ้นของบิตคอยน์อาจเข้าสู่ *ช่วงปลายของวัฏจักร* แล้ว โดยตามการวิเคราะห์ทางเทคนิค บางความเห็นเตือนว่า หากราคาหลุดแนวรับสำคัญ อาจเกิดการ *ปรับฐานถึง 50%* ซึ่งอาจทำให้ร่วงลงไปแตะระดับ 52,200 ดอลลาร์ หรือประมาณ 7.24 ล้านบาท
นักวิเคราะห์ที่ใช้ชื่อในโลกออนไลน์ว่า *คริปโตเบิร์ด(CryptoBird)* เปิดเผยผ่านแพลตฟอร์ม X (เดิมคือทวิตเตอร์) เมื่อวันอังคารว่า จากการประเมินตามวัฏจักรในอดีต เขาเชื่อว่า *ระยะเวลาที่เหลือของขาขึ้นครั้งนี้อาจเหลือเพียง 10 วัน* เท่านั้น โดยข้อมูลแสดงให้เห็นว่าตั้งแต่ราคาบิตคอยน์หลุดจากจุดต่ำสุดของรอบนี้มาแล้ว 1,058 วัน และคาดว่าปัจจุบันได้ดำเนินมาถึง *99.3% ของวัฏจักรขาขึ้น*
เขาชี้ว่า การปรับฐานของราคาที่เห็นในช่วงหลังเป็นเพียง *พฤติกรรมทั่วไปก่อนถึงจุดสูงสุดของวัฏจักร* ซึ่งเคยเกิดขึ้นในอดีตหลายครั้ง เพื่อเป็นการ *เขย่ากลุ่มผู้ถือสินทรัพย์ที่ขาดความมั่นคง* หรือที่เรียกว่า ‘weak hands’ ให้ออกไปจากตลาดก่อนราคาจะพุ่งขึ้นอีกครั้ง
คริปโตเบิร์ดยังระบุวันที่ 24 ตุลาคม เป็น *วันสิ้นสุดของวัฏจักร* และจากประสบการณ์ของเขา นี่คือจุดที่ราคาสินทรัพย์ดิจิทัลจะเข้าสู่ ‘ช่วงพีกของความหลงใหล’ โดยเตือนว่าแม้นักลงทุนบางส่วนจะถอนตัวไปในตอนนี้ แต่นี่อาจเป็น *ช่วงสุดท้ายก่อนราคาจะพุ่งแรงครั้งสุดท้าย*
หากบทวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญเป็นจริง การเคลื่อนไหวของบิตคอยน์ในขาขึ้นรอบนี้ก็อาจใกล้สิ้นสุดในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม จากแนวโน้มในอดีต พบว่าบิตคอยน์มักแสดงพฤติกรรมสวนทางกับการคาดการณ์อยู่เสมอ ทั้งคำเตือนและการดีดตัวจึงมักเกิดขึ้นควบคู่กัน สถานการณ์เช่นนี้จึงเป็นได้ทั้ง *สัญญาณเตือน* และ *โอกาส* สำหรับนักลงทุนพร้อมกันในเวลาเดียวกัน
ความคิดเห็น 0