แจ็ก ดอร์ซีย์ ผู้ก่อตั้งร่วมของทวิตเตอร์และสแควร์(SQ) กลับมาแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนอีกครั้งเกี่ยวกับบิตคอยน์(BTC) โดยระบุว่า *“บิตคอยน์คือเงิน ไม่ใช่คริปโต”* คำกล่าวนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่แนวคิดเชิงปรัชญา แต่สะท้อนถึงเป้าหมายในการผลักดันการนำบิตคอยน์มาใช้จริงในชีวิตประจำวัน
ดอร์ซีย์มีมุมมองชัดเจนมายาวนานว่า บิตคอยน์ไม่ควรถูกมองเป็นเพียง *สินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไร* แต่ควรทำหน้าที่เป็น ‘เงิน’ ตามเจตนารมณ์เดิมของซาโตชิ นากาโมโตะ โดยระบบการชำระเงินที่กระจายศูนย์ควรจะเป็นหัวใจของบิตคอยน์ เขายังวิพากษ์กฎระเบียบและโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินในปัจจุบันว่า เป็นอุปสรรคที่บิดเบือนจุดประสงค์ของโปรโตคอลนี้ พร้อมเรียกร้องให้ยกเว้นภาษีสำหรับการชำระเงินขนาดเล็กด้วยบิตคอยน์
ก่อนหน้านี้ อดัม แบ็ก ผู้พัฒนาระบบคริปโตยุคแรกก็มีแนวคิดในลักษณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวนี้สวนกระแสต่อมุมมองที่มองบิตคอยน์เป็น ‘ทองคำดิจิทัล’ ภายใต้แรงกดดันของกฎหมายทั่วโลก
ในการลงมือปฏิบัติ ดอร์ซีย์ได้สร้างเครื่องมือที่สนับสนุนการใช้บิตคอยน์อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นสแควร์, แคชแอป และเครือข่ายไลท์นิง เพื่อดึงบิตคอยน์มาอยู่ในระบบการชำระเงินจริง ปัจจุบันมีตลาดเกษตรบางแห่งในสหรัฐที่เปิดให้ทดลองใช้บิตคอยน์ *โดยไม่มีค่าธรรมเนียม* ดอร์ซีย์ตั้งเป้าว่าภายในปี 2026 จะ *ยกเลิกค่าธรรมเนียมทั้งหมด* และสร้างระบบซื้อขายแบบ P2P ที่ขับเคลื่อนด้วยบิตคอยน์ ซึ่งสิ่งนี้อาจกลายเป็นทางเลือกสำคัญของร้านค้าขนาดเล็กที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้มาสเตอร์การ์ดและวีซาในอัตราที่สูง
ในอีกด้าน หนึ่งในทฤษฎีเก่ากลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง นั่นคือ “แจ็ก ดอร์ซีย์อาจเป็นซาโตชิ นากาโมโตะตัวจริง” ทฤษฎีนี้อ้างอิงจากงานเขียนของเขาด้านเทคโนโลยีเข้ารหัสในปี 2003 รวมถึงความซ้อนทับของช่วงเวลาในเอกสารบิตคอยน์ยุคแรก, ประวัติโดยย่อของดอร์ซีย์ และแม้แต่คำว่า ‘sailor’ ในโปรไฟล์ของเขาที่ไปสอดคล้องกับโค้ดคำคมในระบบ อย่างไรก็ตาม ดอร์ซีย์ไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อประเด็นนี้ โดยย้ำว่าเขามุ่งมั่นกับภารกิจเดียวคือ *การทำให้บิตคอยน์กลายเป็น ‘เงินจริง’ แทนที่จะเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุน*
จุดยืนของดอร์ซีย์ที่นิยามบิตคอยน์ว่าเป็น ‘เงิน’ ไม่เพียงแต่จะจุดกระแสในเชิงทฤษฎีเท่านั้น แต่ยังเดินหน้าด้วยการลงมือปฏิบัติจริง ซึ่งอาจกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในการ *ขยายการใช้งานคริปโตในตลาดค้าปลีก* ได้ในอนาคต ความคิดเห็น: การผลักดันบิตคอยน์ในชีวิตประจำวันหากสำเร็จ อาจเปลี่ยนภาพลักษณ์ของคริปโตทั้งวงการจาก 'สินทรัพย์เสี่ยง' เป็น 'เครื่องมือทางเศรษฐกิจที่จับต้องได้' อย่างแท้จริง
ความคิดเห็น 0