ริปเปิลและโทเคนหลักอย่าง ริปเปิล(XRP) กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง หลังปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในหมู่สถาบันการลงทุน เมื่อเร็วๆ นี้ XRP มียอดซื้อขายในช่วง 24 ชั่วโมงเพิ่มขึ้นกว่า 27% แตะระดับ 4.8 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.6 แสนล้านบาท) ซึ่งบ่งชี้แนวโน้มความต้องการใช้งานระยะยาวจากฝั่งองค์กร ไม่ใช่แค่การเก็งกำไรเพียงระยะสั้น
เบื้องหลังการเคลื่อนไหวนี้คือ ‘เอเวอร์นอธ(Evernorth)’ บริษัทใหม่ที่ได้รับการสนับสนุนจากริปเปิล โดยบริษัทดังกล่าวกำลังดำเนินกระบวนการควบรวมกิจการผ่านสเปก(SPAC) กับบริษัทอาร์มาดา แอคควิซิชัน(Armada Acquisition Corp) เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดแนสแด็ก จุดเด่นของเอเวอร์นอธคือการพัฒนาแพลตฟอร์มทางการเงินที่ใช้ XRP เป็นแกนกลาง โดยตั้งเป้าระดมทุนสูงสุด 1 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.39 แสนล้านบาท) มีรายงานว่าริปเปิลและบริษัทญี่ปุ่น SBI โฮลดิ้งส์ ต่างลงทุนเบื้องต้นไว้รายละ 200 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.78 หมื่นล้านบาท)
เอเวอร์นอธระบุว่า เมื่อเข้าตลาดแนสแด็ก จะใช้ชื่อย่อใหม่ว่า ‘XRPN’ สำหรับซื้อขาย จุดประสงค์ของการระดมทุนคือเตรียมซื้อ XRP จำนวนมากเพื่อจัดเป็นสินทรัพย์หลักในงบดุล ลักษณะกลยุทธ์นี้มีความคล้ายคลึงกับการที่บริษัทบางแห่งอย่าง สตราเตจี(Strategy) เคยซื้อ บิตคอยน์(BTC) จำนวนมากเพื่อยกระดับมูลค่าบริษัท ความแตกต่างคือ XRP จะถูกใช้เป็นสินทรัพย์หลักในมิติขององค์กร ซึ่งถือเป็นแนวทางที่ค่อนข้างใหม่ในอุตสาหกรรมคริปโต
อย่างไรก็ตาม การหันมาใช้ XRP ในหมู่บริษัทขนาดใหญ่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เอเวอร์นอธ ล่าสุด ริปเปิลยังได้เข้าซื้อกิจการบริษัทโซลูชันด้านการเงินสำหรับองค์กรอย่าง จีทรีเชอรี(GTreasury) พร้อมตั้งกองทุนมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ เพื่อเร่งขยายบริการที่ใช้ XRP เป็นแกนกลางให้กับองค์กรโดยเฉพาะ อีกทั้ง บริษัทร่วมพัฒนาพลังงานสะอาดอย่าง วีโวพาวเวอร์(VivoPower) ก็เพิ่งได้รับเงินทุนใหม่มูลค่า 19 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.64 พันล้านบาท) โดยมีแผนซื้อ XRP เพิ่มเติมในลำดับถัดไป
ด้านเดวิด ชวาร์ตซ์(David Schwartz) ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีของริปเปิล ได้ออกมายืนยันว่าไม่ได้มีบทบาทในการดำเนินงานโดยตรงของเอเวอร์นอธ มีเพียงบทบาทในแง่ที่ปรึกษาเท่านั้น เพื่อป้องกันการคาดการณ์ที่อาจทำให้ตลาดเกิดความเข้าใจผิด
XRP ขณะนี้ซื้อขายอยู่ที่ระดับประมาณ 2.4 ดอลลาร์ต่อเหรียญ และมีมูลค่าตลาดรวมสูงถึง 146.9 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 204 ล้านล้านบาท) การที่องค์กรขนาดใหญ่เริ่มนำ XRP ไปใช้เพื่อรองรับโครงสร้างทางการเงิน ทำให้ XRP มีแนวโน้มกลายเป็น *สินทรัพย์หลักในงบดุลขององค์กร* และมีบทบาทมากกว่าการเป็นเพียงเหรียญสำหรับชำระเงินในโลกคริปโต **ความคิดเห็น: หากแนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไป การเติบโตของความต้องการ XRP ในเชิงโครงสร้าง อาจเป็น ‘ตัวเร่ง’ สำคัญสำหรับการปรับตัวขึ้นของราคาต่อเนื่องในระยะยาว**
ความคิดเห็น 0