โซลานา(SOL) ร่วงต่ำสุดในรอบ 5 เดือน เหตุปริมาณซื้อขาย DEX ลดลง-ตลาดอนุพันธ์ซบเซา

โซลานา(SOL) ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนที่ 131.90 ดอลลาร์ ดึงดูดความสนใจจากตลาด สกุลเงินดิจิทัลดังกล่าวปรับตัวลดลงกว่า 17% นับตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ซึ่งมากกว่าการลดลงเฉลี่ย 10% ของตลาดอัลท์คอยน์โดยรวม ปัจจัยหลักที่ทำให้โซลานาประสบภาวะขาลงอย่างรุนแรงนั้นมาจากการลดลงของกิจกรรม ‘ออนเชน’ อัตราเงินเฟ้อที่สูง และภาวะซบเซาของตลาดอนุพันธ์

ปริมาณการซื้อขายของกระดานแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ(DEX) บนเครือข่ายโซลานาลดลง 30% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แตะระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยแพลตฟอร์มชั้นนำอย่าง เมทีโอรา(Meteora) และ เรเดียม(Raydium) มีปริมาณการซื้อขายลดลง 48% และ 28% ตามลำดับ ขณะที่แพลตฟอร์มมิมคอยน์ Pump.fun ก็ลดลงถึง 35% ตรงกันข้ามกับเครือข่ายอีเธอเรียม(ETH) ที่ปริมาณการซื้อขาย DEX เพิ่มขึ้นกว่า 40% ในช่วงเวลาเดียวกัน

แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญบางรายจะมองว่าภาวะซบเซาของมิมคอยน์เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้โซลานาประสบปัญหา แต่ก็ไม่สามารถมองข้ามการชะลอตัวของแอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจ(DApp)โดยรวมได้ โดยจำนวนผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ของ ‘จิโต(Jito)’ ลดลงถึง 49% ส่วนแพลตฟอร์ม ‘แฟรกเมติก(Fragmetic)’ และ ‘เซฟ(Save)’ ก็ลดลง 30% และ 28% ตามลำดับ นอกจากนี้ ค่าดำเนินการของ ‘วาลิดิเดเตอร์(Validator)’ บนเครือข่ายโซลานามีค่าใช้จ่ายต่อปีสูงถึง 72,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.03 ล้านบาท) ซึ่งนับเป็นภาระทางโครงสร้างในระยะยาว

ตลาดอนุพันธ์ก็สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ลดลงต่อโซลานาเช่นกัน สัญญาฟิวเจอร์สที่ครบกำหนดในอีก 2 เดือนข้างหน้าแสดง ‘แบ็คเวิร์ดเดชัน(Backwardation)’ หรือราคาสัญญาล่วงหน้าต่ำกว่าราคาปัจจุบัน ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความต้องการเปิดสถานะ ‘ชอร์ต(Short)’ ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ มูลค่ารวมของสัญญาฟิวเจอร์สที่ยังไม่ถูกชำระลดลง 8.5% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนกำลังลดการเปิดสถานะที่ใช้ ‘เลเวอเรจ(Leverage)’ ในโซลานา อีกทั้ง แนวโน้มที่โซลานาจะได้รับอนุมัติ ‘ETF สปอต’ ในสหรัฐฯ ยังคงไม่แน่นอน ซึ่งส่งผลกระทบทางลบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

เมื่อตระหนักถึงปัจจัยเหล่านี้ โซลานามีแนวโน้มที่จะเผชิญกับความยากลำบากในการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในระยะสั้น เนื่องจากกิจกรรมบนเครือข่ายยังไม่กลับมาคึกคัก อัตราเงินเฟ้อยังสูง และตลาดอนุพันธ์ยังอ่อนแอ โซลานาจึงอาจใช้เวลาฟื้นตัวช้ากว่าเหรียญคริปโตหลักอื่น ๆ