Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

แม้ถูกตั้งคำถาม RWA โต 5 เท่าภายใน 3 ปี สะท้อนศักยภาพเปลี่ยนระบบการเงินโลก

แม้ถูกตั้งคำถาม RWA โต 5 เท่าภายใน 3 ปี สะท้อนศักยภาพเปลี่ยนระบบการเงินโลก / Tokenpost

แม้การแปลงสินทรัพย์จริงเป็นโทเคน(RWA) จะได้รับความสนใจว่าเป็นแนวทางใหม่ที่ช่วยลดความไม่มีประสิทธิภาพของระบบการเงินดั้งเดิม แต่คาดหวังว่าเทคโนโลยีนี้จะ ‘แก้ทุกปัญหา’ ได้อาจเป็นภาพที่เรียบง่ายเกินไป เพราะในความเป็นจริง กระบวนการพัฒนา RWA ยังคงต้องฝ่าด่านความคาดหวังสูงและเสียงวิพากษ์จำนวนมากซึ่งมีทั้งข้อถกเถียงด้านความจำเป็น โครงสร้างที่ซับซ้อน ปัญหาเชิงกฎหมาย และโครงสร้างพื้นฐานที่ยังไม่ลงตัว

คำวิจารณ์ที่พบบ่อยคือ “จำเป็นต้องมี RWA จริงหรือ” บางกลุ่มถึงกับมองว่า ‘แค่การกระจายอำนาจ’ ก็เพียงพอแล้ว อย่างไรก็ดี มุมมองเหล่านี้มักละเลยข้อเท็จจริงว่า การสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินใหม่ย่อมต้องเผชิญกับ ‘การลองผิดลองถูก’ และกระบวนการปรับปรุงครั้งใหญ่ อุปสรรคที่วุ่นวายอาจกลายเป็น ‘รากฐาน’ ของการเติบโตอย่างมีระบบในอนาคต

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อแปลงสินทรัพย์จริงเป็นโทเคนมีแนวโน้มที่ชัดเจนว่า ไม่ได้จำกัดแค่การทดลองเชิงเทคนิค แต่เป็นการดิ้นรนเพื่อแก้ ‘ความไม่สมดุลทางการเงินระดับโลก’ โดยเฉพาะในตลาดอสังหาริมทรัพย์และตราสารหนี้รัฐบาลที่ยังคงอิงระบบสัญญาแบบกระดาษและกระบวนการซื้อขายที่ขาดความโปร่งใส ซึ่ง RWA สามารถเข้ามาปรับปรุงให้ทันสมัยได้

‘การเปลี่ยนสินทรัพย์ทางกายภาพให้เป็นโทเคนดิจิทัลที่ตั้งโปรแกรมได้’ คือก้าวสำคัญของการเติบโตในอุตสาหกรรมบล็อกเชน และหากต้องการให้สถาบันการเงินหลักเข้ามาเกี่ยวข้อง โครงสร้างของระบบจำเป็นต้องรองรับระดับองค์กร เห็นได้จากคำกล่าวของ เฟรด เออร์ซัม(Fred Ehrsam) ผู้ร่วมก่อตั้งของคอยน์เบส ว่า “สุดท้ายทุกอย่างจะกลายเป็นโทเคน และทุกอย่างจะเชื่อมกันผ่านบล็อกเชน” ซึ่งไม่ใช่แค่ความฝันอีกต่อไป

เพียงแค่ตลาดของสเตเบิลคอยน์ก็มีมูลค่าทะลุ 2.6 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 361.4 ล้านล้านวอน) แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึง ‘ความต้องการที่มีอยู่จริง’ ของ RWA และอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้คำวิจารณ์เชิงลบเริ่มเงียบเสียงลงบ้าง

อย่างไรก็ดี ความสำเร็จไม่อาจเกิดโดยไร้โครงสร้างที่มั่นคง ทั้งกรอบกำกับดูแลและการออกแบบ ‘โทเคโนมิกส์’ อย่างประณีตเป็นสิ่งจำเป็นสูงสุด เพราะหากขาดการจัดการแรงจูงใจที่เหมาะสมระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การไหลเวียนของสินทรัพย์อาจเกิดความไม่สมดุล นำไปสู่การรวมศูนย์อีกครั้ง ซึ่งจะย้อนแย้งกับเจตนารมณ์ของ RWA อย่างสิ้นเชิง

ขณะนี้โครงการนำร่องหลักๆ ได้เข้าสู่การพัฒนาโครงสร้างสำคัญแล้ว ทั้งระบบรู้จักลูกค้า(KYC)แบบออนเชน, กลไกป้องกันการฟอกเงิน, การยืนยันตัวตน, การรับฝากสินทรัพย์ และระบบประเมินราคาแบบน่าเชื่อถือ สิ่งที่เหลือต่อจากนี้คือ ‘แบบสัญญามาตรฐานที่ลดภาระทางกฎหมาย’ และ ‘ช่องทางตอบสนองต่อกฎเกณฑ์ต่างประเทศอย่างรวดเร็ว’ ซึ่งจะเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นใหม่ที่เสริมความสมบูรณ์ของระบบ

RWA ในตอนนี้ไม่ใช่แค่การทดสอบในห้องแลปอีกต่อไป สหรัฐฯ ออกกฎหมาย GENIUS เพื่อวางกรอบกำกับดูแลสเตเบิลคอยน์ซึ่งทำหน้าที่เป็น ‘ตัวกลางสำคัญ’ ส่วนสหภาพยุโรปก็กำลังเตรียมบังคับใช้กฎหมาย MiCA ภายในปี 2025 เพื่อสร้างมาตรฐานกลางด้านการออกและซื้อขายคริปโตใน 27 ประเทศ

ฝั่งเอเชียก็เติบโตอย่างรวดเร็วไม่แพ้กัน โครงการ Guardian ของสิงคโปร์ร่วมมือกับธนาคาร DBS และ JPMorgan ในการโทเคนตราสารหนี้และกองทุน ด้านสำนักงานบริการทางการเงินของญี่ปุ่นได้กำหนดแนวทางชัดเจนสำหรับสเตเบิลคอยน์และโทเคนหลักทรัพย์ ขณะที่ฮ่องกงก็เดินหน้าสร้างกฎใหม่รับมือสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเทียบเท่าสหรัฐฯ

ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า กลุ่มสถาบันการเงินดั้งเดิมและเครือข่ายคริปโตเริ่มเปิดใจและร่วมมือกันมากขึ้น ไม่ได้เป็นเพียงแนวคิดในอุดมคติ แต่เป็น *ความก้าวหน้าที่จับต้องได้* ซึ่งกำลังเกิดขึ้นภายในและภายนอกอุตสาหกรรม และยังส่งผลให้ในแวดวงการเงินแบบดั้งเดิมเริ่มมีการประเมิน ‘คุณค่าของ RWA’ กันใหม่

แม้จะเต็มไปด้วยคำครหา ตลาด RWA ก็เติบโตขึ้นกว่า 5 เท่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และกำลังก้าวผ่าน ‘ช่วงเก็งกำไร’ เข้าสู่การสร้างระบบจริงพร้อมปรับตัวรับระเบียบข้อบังคับทางกฎหมายที่ยั่งยืน

ที่เหลือขณะนี้คือ ทางแยกสำคัญ: จะยึดติดกับกฎเก่าหรือเปิดรับรูปแบบใหม่ของการแลกเปลี่ยนมูลค่า แต่ไม่ว่าจะเลือกทางไหน *เกมการเงินแบบดั้งเดิมก็เปลี่ยนไปแล้ว* อย่างไม่มีวันย้อนกลับ

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1