สเตรทิจี(Strategy) บริษัทจดทะเบียนที่ถือครอง *บิตคอยน์(BTC)* มากที่สุดในโลก กลับมาซื้อเพิ่มอีกครั้งในช่วงที่ราคากำลังขาขึ้น แม้จะมีแนวโน้มชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ครึ่งปีหลังเป็นต้นมา
ตามเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สเตรทิจีได้เข้าซื้อ *บิตคอยน์* จำนวน 390 เหรียญ มูลค่ารวมทั้งสิ้น 43.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 602,000 ล้านวอน คิดเป็นราคาซื้อต่อเหรียญเฉลี่ยที่ประมาณ 111,117 ดอลลาร์ หรือราว 154.57 ล้านวอน โดยในวันที่ 2 (เวลาท้องถิ่น) ราคาบิตคอยน์ได้ทะลุระดับ 113,000 ดอลลาร์อย่างชั่วคราว สะท้อนแรงซื้อที่ส่งผลให้ราคาแข็งแกร่งขึ้นในระยะสั้น
จากดีลล่าสุดนี้ ส่งผลให้สเตรทิจีถือ *บิตคอยน์* ทั้งสิ้นรวม 640,808 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนสะสมที่ 47.4 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 65.86 ล้านล้านวอน โดยมีต้นทุนเฉลี่ยต่อเหรียญอยู่ที่ 74,032 ดอลลาร์ หรือราว 102.9 ล้านวอน ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ต่ำกว่าราคาตลาดในปัจจุบัน
แม้จะเป็นการซื้อเพิ่ม แต่ในมุมกลับ การเคลื่อนไหวของสเตรทิจีกลับสะท้อนสัญญาณ *การชะลอการลงทุนอย่างมีนัยยะ* ในช่วงเดือนตุลาคม โดยบริษัทเข้าซื้อเพียง 778 เหรียญเท่านั้น ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเดือนที่มียอดซื้อต่ำที่สุดนับตั้งแต่เริ่มลงทุน เทียบกับเดือนกันยายนที่ซื้อไป 3,526 เหรียญ หดตัวลงถึง 78% หากย้อนดูสถิติเก่า ในเดือนกรกฎาคมบริษัทเคยซื้อถึง 31,466 เหรียญ และในเดือนพฤษภาคมที่ 26,695 เหรียญ แสดงให้เห็นถึงการลดระดับการลงทุนลงอย่างชัดเจน
ท่ามกลางภาวะราคากำลังมุ่งหน้าสู่จุดสูงสุด กลยุทธ์การลงทุนที่ระมัดระวังมากขึ้นของสเตรทิจีจึงกลายเป็นประเด็นที่ตลาดกำลังจับตา ว่าจะมีการปรับทิศทางในอนาคตหรือไม่ โดยสเตรทิจีมีผู้นำคือ *ไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor)* ที่ยังเดินหน้าสนับสนุนนโยบายโปรบิตคอยน์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สมัยรัฐบาล *ประธานาธิบดีทรัมป์* ซึ่งเคยแสดงจุดยืนหนุนสกุลเงินดิจิทัลอย่างชัดเจนมาแล้วก่อนหน้านี้
ความคิดเห็น 0