ไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) ย้ำความเชื่อมั่นใน *บิตคอยน์(BTC)* อีกครั้ง โดยระบุอย่างชัดเจนว่า “ไม่เคยขายบิตคอยน์แม้แต่เหรียญเดียว” ผ่านโพสต์บนแพลตฟอร์ม X เมื่อไม่นานมานี้ เขาเน้นหนักถึงแนวทาง *ถือครองระยะยาว* พร้อมย้อนความถึงข้อความเมื่อ 5 ปีก่อนที่เขาเปิดเผยว่าเริ่มถือบิตคอยน์ครั้งแรก ซึ่งจากนั้นมา เขายังคงยืนยันที่จะไม่ขายเหรียญใด ๆ
เซย์เลอร์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทธุรกิจข้อมูล *สเตรเทจี(Strategy)* และเป็นที่รู้จักในฐานะนักเผยแพร่บิตคอยน์ตัวยง กล่าวว่าบิตคอยน์ไม่ใช่เพียงสินทรัพย์เพื่อการลงทุน แต่คือ ‘แหล่งเก็บมูลค่าในยุคดิจิทัล’ และไม่ควรหวั่นไหวไปกับราคาที่ผันผวน ความเชื่อนี้ยังสะท้อนอยู่ในการตัดสินใจของบริษัทที่ทุ่มงบหลายแสนล้านบาท เพื่อสะสมบิตคอยน์เป็นสินทรัพย์องค์กรตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ในปี 2020 เซย์เลอร์เคยเปิดเผยว่า เขาถือครอง *บิตคอยน์* จำนวนทั้งหมด 17,732 เหรียญ ผ่านกระเป๋าส่วนตัว โดยมีราคาเฉลี่ยการเข้าซื้อที่ 9,882 ดอลลาร์ หรือราว 1.37 ล้านบาทต่อเหรียญ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการซื้อก่อนที่ราคาจะทะลุ 10,000 ดอลลาร์ ปัจจุบันเมื่อคำนวณตามราคาตลาดที่ประมาณ 114,820 ดอลลาร์ต่อเหรียญ หรือราว 15.95 ล้านบาท มูลค่ารวมของบิตคอยน์ที่เขาถืออยู่พุ่งสู่ระดับ 2.03 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 2.82 แสนล้านบาท เทียบกับต้นทุนซื้อที่อยู่ราว 175.23 ล้านดอลลาร์ ถือว่ามีกำไรจากส่วนต่างมากกว่า 1 แสนล้านบาท
เซย์เลอร์แสดงมุมมองในเชิง *มองโลกในแง่ดีต่ออนาคตของบิตคอยน์* มาโดยตลอด ไม่ว่าจะช่วงราคาตกต่ำหรือสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยมักใช้ข้อความ “Don’t stop believing” หรือ “อย่าหยุดเชื่อมั่น” เพื่อให้กำลังใจนักลงทุน เขาย้ำว่าบิตคอยน์จะเพิ่มมูลค่าเมื่อเวลาผ่านไป และยังเป็นสินทรัพย์ที่เหนือกว่าสกุลเงินทั่วไป
อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ ก่อนที่บริษัทสเตรเทจีจะเริ่มลงทุนในบิตคอยน์ เซย์เลอร์ได้เปิดเผยข้อมูลการถือครองส่วนตัวต่อคณะกรรมการบริหารอย่างโปร่งใส เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และเสริมสร้างความน่าเชื่อถือในการลงทุนของบริษัท
การเดินหน้าของเซย์เลอร์ไม่ได้สะท้อนแค่กลยุทธ์การลงทุน แต่ยังเป็นการแสดงถึง *ปรัชญาในการถือครองบิตคอยน์อย่างลึกซึ้ง* ประกาศของเขาที่จะไม่ขายแม้ในตลาดที่มีความผันผวนสูงนั้น ได้กลายเป็นตัวอย่างของแนวทางการถือระยะยาวที่ยึดหลักคุณค่า (value-driven strategy) และได้รับการจับตามองอย่างกว้างขวางในวงการคริปโต.
ความคิดเห็น 0