หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย บิตคอยน์(BTC) ก็ร่วงลงอย่างรวดเร็ว สะท้อนรูปแบบคลาสสิกของตลาดที่เรียกว่า ‘ซื้อเมื่อมีข่าวลือ ขายเมื่อมีข่าวจริง’ โดยราคาของบิตคอยน์ดิ่งลงต่ำกว่า 108,000 ดอลลาร์ (ราว 1.4 ล้านบาท) ทันทีหลังจากที่มีการปรับลดดอกเบี้ย 0.25%
ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ตลาดอย่างแซนติเมนต์(Santiment) ชี้ว่า นักลงทุนจำนวนมากได้เข้าซื้อบิตคอยน์ล่วงหน้าโดยหวังว่าธนาคารกลางจะเดินหน้านโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี อย่างไรก็ตาม เมื่อเจอโรม พาวเวล ประธาน Fed ออกมาแถลงว่า "ยังไม่สามารถการันตีการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในเดือนธันวาคม" ก็ส่งผลให้อารมณ์ในตลาดเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง
หลังการประกาศ อัตราเปิดของบิตคอยน์ตกลงต่ำกว่า 110,000 ดอลลาร์ (ราว 1.43 ล้านบาท) ในตลาดอนุพันธ์มีการชำระบัญชีโพซิชั่น Long จำนวนมาก และตามรายงานของแซนติเมนต์ เม็ดเงินลงทุนไหลเข้าสู่กระดานแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นรวดเร็ว ขณะที่ *Funding Fee* เริ่มเย็นลง ซึ่งแสดงว่านักลงทุนที่ใช้เลเวอเรจไม่สามารถรับแรงกดดันจากถ้อยแถลงของ Fed ได้ทัน
บรรยากาศในตลาดเปลี่ยนเป็นลบทันที คำว่า ‘ลดดอกเบี้ย’, ‘พาวเวล’, และ ‘ธนาคารกลาง’ กลายเป็นคำค้นยอดฮิตในชุมชนคริปโต ซึ่งสะท้อนถึงความตื่นตระหนกของนักลงทุนต่อภาวะ *ตลาดขาลง* แต่แซนติเมนต์ เสนอ *ความคิดเห็น* ว่า แรงขายและความสนใจที่เพิ่มขึ้นอาจกลายเป็นสัญญาณของการสร้างฐานราคาในระยะสั้น
นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างราคาบิตคอยน์กับตลาดหุ้นสหรัฐถูกลดทอนลง ขณะที่ความเชื่อมโยงกับราคาทองคำกลับเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่าบางกลุ่มนักลงทุนเริ่มมอง BTC เป็น "ทองคำดิจิทัล" และหันมาเน้นกลยุทธ์การลงทุนแบบป้องกันความเสี่ยง ในขณะเดียวกัน ราคาของเหรียญทางเลือก (อัลต์คอยน์) ก็ปรับลดลงตาม แต่ภาระเลเวอเรจที่เคยสูงกำลังได้รับการคลี่คลาย และ Funding Fee ของตลาดก็เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ
ขณะเดียวกัน นักลงทุนประเภทวาฬบางรายเริ่มเข้าซื้อบิตคอยน์ในช่วงที่ราคาร่วงลง โดยเชื่อว่าตลาดกำลังอยู่ในช่วงสร้างฐานรองรับการฟื้นตัว จากมุมมองทางเทคนิค ราคาบิตคอยน์ยังไม่หลุดเส้นแนวรับที่สำคัญ และยังคงมี *ช่องให้ฟื้นตัว* แม้จะอยู่ภายใต้แรงกดดันจากการปรับฐานราคาในระยะสั้นก็ตาม
แซนติเมนต์ยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่การเพิ่มขึ้นของโพซิชั่น Short อาจนำไปสู่สถานการณ์ *ชอร์ตสควีซ* ซึ่งอาจเป็นตัวเร่งให้ราคาบิตคอยน์เด้งกลับขึ้นมาแตะระดับ 115,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.49 ล้านบาท) ได้อีกครั้ง
นักวิเคราะห์จากแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโต Bitunix ให้ *ความคิดเห็น* ว่าตลาดบิตคอยน์กำลังเข้าสู่ "ช่วงปรับราคาโครงสร้าง" โดยแนวรับสำคัญระยะสั้นอยู่ที่ประมาณ 108,000~109,600 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.40~1.42 ล้านบาท) หากหลุดระดับนี้อาจนำไปสู่ความเสี่ยงในการถูกชำระบัญชีแบบลูกโซ่ ส่วนแนวต้านหลักอยู่ที่ 112,300 ดอลลาร์ (ราว 1.46 ล้านบาท) และ 116,000 ดอลลาร์ (ราว 1.50 ล้านบาท)
*ความคิดเห็น:* ท่ามกลางความผันผวน ตลาดจะแสดงความเปราะบางมากขึ้นต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายของธนาคารกลาง ปัจจัยกำหนดราคาหลักในระยะสั้นคงหนีไม่พ้นการรักษา *เส้นแนวรับ* และความสามารถในการจัดการ *ภาระเลเวอเรจ* ใหม่ของนักลงทุนภายใต้สภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่ยังคงไม่แน่นอน
ความคิดเห็น 0