นักลงทุนรายใหญ่เริ่มกลับมา ‘สะสม’ บิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) อีกครั้ง ส่งสัญญาณถึงความเคลื่อนไหวใหม่ในตลาดคริปโต โดยข้อมูลจากทั้งออนเชนและตลาดอนุพันธ์แสดงให้เห็นว่า การโอนเงินจำนวนสูงและการถอนสินทรัพย์ออกจากแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนกำลังเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจเป็นแรงหนุนให้ราคาของสินทรัพย์ทั้งสองฟื้นตัว
ตามข้อมูลของนักวิเคราะห์คริปโต อาลี มาร์ติเนซ ในช่วงสองวันที่ผ่านมาเครือข่ายของบิตคอยน์มีธุรกรรมที่มีมูลค่าเกิน 1 ล้านดอลลาร์ (ราว 13 ล้านบาท) มากถึง 6,311 รายการ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบสองเดือน บ่งชี้ว่า นักลงทุนรายใหญ่รวมถึงสถาบันกำลังเคลื่อนไหวอย่างจริงจัง
ราคาของบิตคอยน์เคยร่วงลงชั่วคราวหลังจากธนาคารกลางสหรัฐประกาศลดอัตราดอกเบี้ย จนหลุดระดับ 108,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.42 ล้านบาท) แต่แล้วกลับฟื้นขึ้นมาแตะจุดสูงสุดที่ 116,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.53 ล้านบาท) และล่าสุดซื้อขายอยู่ที่ราว 110,700 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.49 ล้านบาท) ลดลงเล็กน้อยราว 2% เมื่อดูจากข้อมูลของคริปโตควนต์(CryptoQuant) พบว่าการถอนบิตคอยน์ออกจากเว็บแลกเปลี่ยนยังคงมีอย่างต่อเนื่องตลอดเดือนตุลาคม ซึ่งบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่ผู้ถือครองนำไปเก็บรักษาในวอลเล็ตเย็นเพื่อถือระยะยาว
แนวโน้มลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นในตลาดอีเธอเรียม โดยข้อมูลที่แชร์โดยคริปโตโรเวอร์(Crypto Rover) พบว่าสัญญาฟิวเจอร์สของ ETH บนตลาดซื้อขายชิคาโก(CME) มีปริมาณคงค้าง (Open Interest) ทะลุ 2.25 ล้านสัญญา ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งยังพบว่าความต้องการจากนักลงทุนสถาบันกระจายครอบคลุมช่วงเวลาครบกำหนดตั้งแต่ 1 ถึง 6 เดือน
อีเธอเรียมเริ่มต้นปี 2025 ที่ระดับต่ำกว่า 1,400 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.87 แสนบาท) ก่อนจะพุ่งขึ้นแตะ 4,950 ดอลลาร์ (ประมาณ 6.6 แสนบาท) และปัจจุบันซื้อขายอยู่ราว 3,900 ดอลลาร์ (ราว 5.2 แสนบาท) โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาขยับขึ้นราว 2% ขณะที่ภายในวันเดียวมีการปรับลดลงราว 3%
ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ อัลฟรัคทัล(Alphractal) เผยว่ามีจำนวนที่อยู่กระเป๋าเงินที่ถือ ETH มากกว่า 1,000 เหรียญเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ปริมาณ ETH รวมในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนก็ลดลงประมาณ 1 ล้านเหรียญนับตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน
เว็บไซต์คริปโตโปเตโต(CryptoPotato) รายงานเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ต้นปี 2024 การสะสมอีเธอเรียมโดยสถาบันมีอัตราเพิ่มขึ้น 138% ขณะที่บิตคอยน์อยู่ที่ 36% บ่งชี้ว่าสัดส่วนการลงทุนของบางสถาบันกำลังเปลี่ยนไปเน้นที่อีเธอเรียมมากขึ้น
*ความคิดเห็น:* ความเคลื่อนไหวทั้งในฝั่งของบิตคอยน์และอีเธอเรียมชี้ให้เห็นถึงการจัดพอร์ตใหม่ของนักลงทุนรายใหญ่ แม้ราคาจะผันผวนในระยะสั้น แต่การเข้าซื้อสินทรัพย์อย่างต่อเนื่องประกอบกับข้อมูลจากตลาดอนุพันธ์และออนเชน อาจกลายเป็นปัจจัยหนุนให้เกิดการปรับตัวขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนจากสถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคและการออกนโยบายกำกับจากภาครัฐยังคงเป็นความเสี่ยงที่ตลาดต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0