ฟลัตเตอร์เวฟ (Flutterwave) บริษัทฟินเทคอันดับหนึ่งของไนจีเรีย เตรียมพัฒนาแพลตฟอร์มการชำระเงินข้ามพรมแดนรูปแบบใหม่โดยใช้เทคโนโลยี *บล็อกเชน* และ *สเตเบิลคอยน์* เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านการเงินในทวีปแอฟริกา ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงแนวโน้มการใช้งานสเตเบิลคอยน์ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาคดังกล่าว
โครงการนี้ได้รับความร่วมมือจาก *โพลิกอน(MATIC)* ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโซลูชันขยายเครือข่ายของบล็อกเชน *อีเธอเรียม(ETH)* โดยแพลตฟอร์มใหม่นี้จะถูกนำไปใช้งานในเครือข่ายของฟลัตเตอร์เวฟซึ่งครอบคลุม 34 ประเทศในแอฟริกา โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรมและประสิทธิภาพในการชำระเงินผ่านบล็อกเชนของโพลิกอน
โอลูเกเบงกา อักโบลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของฟลัตเตอร์เวฟ ระบุว่า การใช้สเตเบิลคอยน์มีศักยภาพในการลดค่าธรรมเนียมและแก้ปัญหาความล่าช้าในระบบการชำระเงินแบบเดิม พร้อมเสริมว่าแพลตฟอร์มนี้อาจช่วยเพิ่มปริมาณการทำธุรกรรมของบริษัทได้ถึง 10 เท่า และอาจกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการดึงดูดเงินทุนเข้าสู่แอฟริกา
ในปัจจุบัน สเตเบิลคอยน์ยอดนิยมอย่าง *เทเธอร์(USDT)* และ *ยูเอสดีคอยน์(USDC)* กำลังถูกใช้ในแอฟริกาเพื่อป้องกันความผันผวนของค่าเงินและภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งการขยับตัวของฟลัตเตอร์เวฟในครั้งนี้อาจกลายเป็นก้าวสำคัญที่ผลักดันให้การใช้บล็อกเชนมีบทบาทจริงในชีวิตประจำวันของชาวแอฟริกา
*ความคิดเห็น*: โพลิกอนถือเป็นหนึ่งในแนวทางแก้ไขปัญหาความสามารถในการขยายตัวของเครือข่ายบล็อกเชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยค่าใช้จ่ายต่ำและความเร็วในการโอนสูง หากผสานเข้ากับเครือข่ายการชำระเงินของฟลัตเตอร์เวฟอย่างมีประสิทธิภาพ ก็อาจเป็นคำตอบสำคัญในการแก้ข้อจำกัดของโครงสร้างพื้นฐานด้านการเงินในทวีปแอฟริกา ทั้งยังสะท้อนถึงศักยภาพของบล็อกเชนที่อาจก้าวข้ามจากการเก็งกำไรไปสู่การใช้งานทางการเงินในชีวิตจริง
ความคิดเห็น 0