โทเคนริปเปิล(XRP) ยังคงตกอยู่ในภาวะ *ขาลง* ท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาด โดยล่าสุดมีการซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 2.23 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 2,968 บาท ลดลงประมาณ 15% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า
นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่า ระดับ *แนวรับทางเทคนิค* ที่สำคัญของ XRP อยู่ที่ 1.94 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,579 บาท) ซึ่งหากสามารถรักษาระดับดังกล่าวไว้ได้ จะกลายเป็น *จุดสะสมกำลังซื้อที่แข็งแกร่ง* ตามความคิดเห็นของนักวิเคราะห์คริปโตชื่อ เอกรัก คริปโต(EGRAG CRYPTO) อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่า XRP มีปัญหาเรื่อง ‘ความเบี่ยงเบนของข้อมูล’ ระหว่างแพลตฟอร์มเทรดต่าง ๆ โดยเขาใช้ตัวชี้วัดเฉลี่ยอย่าง ‘Crypto Data Set’ เพื่อแก้ปัญหานี้
เอกรักชี้ว่า รูปแบบการเคลื่อนไหวของราคา XRP ในปัจจุบันไม่ชัดเจนว่าเป็นรูปแบบลิ่ม (wedge) หรือรูปแบบสี่เหลี่ยม (rectangle) แต่ในเชิงเทคนิคแล้ว ยังมีโอกาส *ฟื้นตัวระยะสั้นที่ระดับ 10 ดอลลาร์ (ประมาณ 13,300 บาท)* หากยังคงอยู่ในแนวโน้มนี้ได้ ระยะต่อไปอาจไต่ไปถึงระดับ 14-25 ดอลลาร์ (ราว 18,620 - 33,250 บาท) โดยเขาประเมินราคาสูงสุดระยะยาวไว้ที่ 50 ดอลลาร์ (ประมาณ 66,500 บาท) อ้างอิงจากจุดสูงสุดเก่าในแพลตฟอร์มซื้อขาย Gemini พร้อมเสริมว่า “หากโครงสร้างของตลาดมีความสมมาตร ก็อาจทดสอบทั้งจุดสูงสุดและต่ำสุดในอดีตได้อีกครั้ง”
ด้านนักวิเคราะห์อีกคนที่ใช้ชื่อว่า 'ChartNerd' ระบุว่า XRP ได้กลับมาทดสอบแนวรับของช่องขาขึ้นที่ก่อตัวตั้งแต่ต้นปี 2024 โดยราคาปัจจุบันที่ราว 2.21 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,937 บาท) ใกล้เคียงกับระดับที่เคยเกิดการดีดตัวก่อนหน้านี้ ซึ่งเขามองว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเห็นราคาทะยานกลับขึ้นไปที่ 6-7 ดอลลาร์ (ราว 7,980 - 9,310 บาท) ในระยะถัดไป
ขณะที่นักวิเคราะห์เทคนิคอีกท่านในวงการชื่อ CRYPTOWZRD กล่าวว่า แท่งเทียนรายวันของ XRP ปิดในลักษณะ *แท่งเทียนขาลง* และกราฟคู่กับบิตคอยน์กลับแสดงรูปแบบ ‘โดจิดราก้อนฟลาย (Dragonfly Doji)’ ซึ่งอาจหมายถึง XRP มีแนวโน้มจะเคลื่อนไหวตามทิศทางของบิตคอยน์(BTC) ในระยะสั้น
สิ่งที่เป็นสัญญาณเชิงลบต่อราคาก็คือ การเคลื่อนไหวของ ‘กระเป๋าเงินคริปโตขนาดใหญ่’ ซึ่งเป็นที่รู้จักว่าเป็นกลุ่มวาฬ โดยมีกระเป๋าที่ครอบครอง XRP ระหว่าง 100 ล้านถึง 1 พันล้านโทเคนเริ่มขายออกมา ส่งผลให้ความดันจากฝั่งผู้ขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณบวกเกิดขึ้นในด้านกองทุน ETF ที่เกี่ยวข้องกับ XRP โดยเมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทจัดการลงทุนขนาดใหญ่อย่าง *แฟรงคลิน เทมเพิลตัน, บิตไวส์ และแคนนารี่ แคปิทอล* ได้ยื่นแบบฟอร์ม S-1 ที่แก้ไขแล้วต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) เพื่อเตรียมยื่นข้อเสนอสำหรับกองทุน XRP แบบสปอต (Spot ETF) ซึ่งใน *ความคิดเห็น* ของผู้เชี่ยวชาญในวงการ คาดว่าการอนุมัติ ETF นี้อาจเริ่มต้นขึ้นได้ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน
นอกจากนี้ บริษัทริปเปิลยังได้ประกาศการเข้าซื้อกิจการ ‘Palladise’ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอในด้านผลิตภัณฑ์ทางการเงิน โดยถือเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่ช่วยผลักดันให้ริปเปิลมีบทบาทเพิ่มมากขึ้นในโลกของการเงินแบบดั้งเดิม ต่อเนื่องจากการซื้อกิจการ Hidden Road และความร่วมมือกับ GTreasury ก่อนหน้านี้
XRP ยังคงประคองตัวให้อยู่เหนือแนวรับหลักได้อย่างหวุดหวิด หากแนวรับดังกล่าวยังคงแข็งแกร่ง ก็มีโอกาสเห็นการฟื้นตัวภายในช่องแนวโน้มขาขึ้น แต่หากราคาหลุดต่ำลง อาจเป็น *สัญญาณเปลี่ยนแนวโน้ม* นักลงทุนควรจับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มวาฬ แผนการอนุมัติ ETF และปัจจัยทางเทคนิคอย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0