รัฐบาลสหรัฐฯ ยุติภาวะ 'ชัตดาวน์' ที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์อย่างเป็นทางการ หลังจากทรัมป์ลงนามให้ความเห็นชอบต่อร่างงบประมาณที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร ถือเป็นการยุติความเป็นอัมพาตของหน่วยงานรัฐบาลกลางที่ดำเนินมานานถึง 43 วัน
ร่างงบประมาณดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาในวันจันทร์ ก่อนจะผ่านสภาล่างในวันพุธ จากนั้นประธานาธิบดีทรัมป์จึงลงนามอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ส่งผลให้หน่วยงานรัฐบาลกลับมาดำเนินงานตามปกติ ความขัดแย้งระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันในประเด็น *การสนับสนุนงบประมาณด้านสาธารณสุข* ถูกมองว่าเป็นสาเหตุสำคัญของ *การชัตดาวน์* ครั้งนี้ โดยพรรคเดโมแครตเรียกร้องให้เพิ่มงบฯ อย่างเร่งด่วน ขณะที่พรรครีพับลิกันเสนอให้หารือเรื่องนี้หลังจากผ่านงบประมาณแล้ว
ประธานาธิบดีทรัมป์แสดงจุดยืนพร้อมร่วมมือกับพรรคฝั่งตรงข้ามหลังการลงนาม โดยระบุว่า “ผมพร้อมร่วมมือกับทุกฝ่าย รวมถึงพรรคฝ่ายค้าน” และเสริมว่า “ในเรื่องระบบสาธารณสุข เราสามารถทำได้ดีกว่าที่เคย”
เหตุการณ์ *ชัตดาวน์* ในครั้งนี้ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองซ้ำซากในสภาคองเกรส ยืดเยื้อยาวนานถึง 43 วัน กลายเป็นสถิติใหม่ของสหรัฐฯ ระหว่างนั้นเกิดความล่าช้าในการให้บริการสาธารณะ รวมถึงปัญหาเที่ยวบินล่าช้า และบริการของรัฐหยุดชะงักในหลายด้าน เป็นผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนและธุรกิจในประเทศ
ความเห็นจากหลายฝ่ายสะท้อนความกังวลที่ว่า สถานการณ์แบบนี้ถูกมองว่าเป็น *“เหตุการณ์ประจำปี”* ไปแล้วในเมืองหลวงทางการเมืองอย่างวอชิงตัน และหากปล่อยให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นต่อเนื่อง จะส่งผลกระทบ *ทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อเศรษฐกิจ* ของประเทศ จึงมีเสียงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเร่งดำเนินการหาข้อตกลงด้านงบประมาณระยะยาว พร้อมทั้งหาทางออกทางการเมืองที่ยั่งยืนโดยเร็ว
ความคิดเห็น 0