ในขณะที่ตลาดคริปโตโดยรวมยังคงซบเซา แต่ ‘ซีน้อง’ ของกลุ่มเหรียญความเป็นส่วนตัวอย่าง *แซดแคช(ZEC)* กลับฉายแสงโดดเด่น ด้วยราคาที่พุ่งขึ้นถึง 7.3% เมื่อวันที่ 13 ส่งผลให้มันกลายเป็นเหรียญที่ทำผลตอบแทนได้สูงเป็นอันดับที่สามในกลุ่ม 100 อันดับแรกโดยมูลค่าตลาด ขณะที่คู่แข่งร่วมสายเดียวกันอย่าง *โมเนโร(XMR)* ก็ขยับขึ้นมาถึง 2.5% เช่นกัน สะท้อนให้เห็นถึงกระแส 'กลับมาแรง' ของกลุ่มเหรียญเน้นความเป็นส่วนตัว
แซดแคชยังทำสถิติทะลุแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 500 ดอลลาร์ (ราว 675,000 บาท) ได้ภายในหนึ่งวัน ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 8.8 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.18 ล้านล้านบาท) และขึ้นแท่นเป็นเหรียญอันดับที่ 26 ของตลาด โดยในช่วงเวลาเดียวกัน กลุ่มเหรียญความเป็นส่วนตัวทั้งกลุ่มมีการปรับตัวขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 21.1% ภายใน 24 ชั่วโมง โดยเหรียญที่ราคาพุ่งแรงส่วนใหญ่มักเป็นเหรียญขนาดเล็ก
หนึ่งในปัจจัยหนุนสำคัญที่ผลักดันการวิ่งของแซดแคช มาจากข่าวการลงทุนของบริษัทไซเบอร์พังก์ เทคโนโลยีส์ ซึ่งเกิดจากการรีแบรนด์ของบริษัทอเมริกันที่เคยพัฒนาเทคโนโลยีรักษามะเร็งอย่าง *รีฟ เทอราพิวติกส์* โดยบริษัทดังกล่าวเพิ่งได้รับเงินทุนรอบใหม่จำนวน 59 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 797 ล้านบาท) ซึ่งนำโดย *วิงเคิลวอส แคปปิตอล* บริษัทลงทุนของฝาแฝดชื่อดังจากวงการคริปโต จุดมุ่งหมายของการรีแบรนด์ชัดเจนว่า ต้องการหันมาโฟกัสด้านการเงินแบบไร้ศูนย์กลาง และเลือกแซดแคชเป็นหัวใจของกลยุทธ์ดังกล่าว
แซดแคชถูกมองว่าเป็นเหรียญที่มีรากฐานจากแนวคิดไซเบอร์พังก์ เป็นตัวแทนของเหรียญความเป็นส่วนตัวที่เน้นเรื่องธุรกรรมแบบปิดบังข้อมูลผู้ใช้อย่างสมบูรณ์ โดยในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ กลุ่มเหรียญความเป็นส่วนตัวกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง เหรียญอื่นๆ เช่น โมเนโร, เรลกัน(RAIL), และ ทอร์นาโดแคช(TORN) ต่างก็มีผลตอบแทนติดอันดับต้นๆ เช่นกัน โดยเฉพาะแซดแคชที่ราคาพุ่งขึ้นเกือบ 10 เท่าภายในสองเดือน จนได้รับฉายาว่าเป็นจุดศูนย์กลางของ 'ซีซั่นเหรียญความเป็นส่วนตัว' ครั้งใหม่นี้
ในขณะที่เหรียญสายความเป็นส่วนตัวกำลังโลดแล่น แต่ *บิตคอยน์(BTC)* กลับร่วงต่ำกว่า 103,000 ดอลลาร์ (ราว 13.89 ล้านบาท) แม้รัฐบาลสหรัฐจะยกเลิกภาวะชัตดาวน์ไปแล้วก็ตาม ด้าน *อีเธอเรียม(ETH)* ก็อ่อนตัวลงถึง 3.9% ภายในวันเดียว กลับมาอยู่ต่ำกว่า 3,500 ดอลลาร์ (ราว 4.72 แสนบาท) เช่นเดียวกับเหรียญหลักอื่นๆ อย่าง *ไบแนนซ์คอยน์(BNB)*, *โซลานา(SOL)*, *โทรน(TRX)* และ *ดอจคอยน์(DOGE)* ก็ร่วมเผชิญแรงเทขาย
*ความคิดเห็น*: นักวิเคราะห์ตลาดหลายรายมองว่าการพุ่งขึ้นของเหรียญกลุ่มนี้ไม่สามารถอธิบายด้วยแค่แรงซื้อระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากบรรยากาศโดยรวมของตลาดเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลและทรัพย์สินของผู้ใช้งานมากขึ้น เหรียญความเป็นส่วนตัวจึงมีแนวโน้มที่จะขยายบทบาทในตลาดคริปโตอย่างมีนัยสำคัญในระยะกลางถึงยาว
ความคิดเห็น 0