ราคาของอีเธอเรียม(ETH) กำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนัก หลังจากร่วงต่ำกว่าระดับแนวรับที่ 3,200 ดอลลาร์ (ราว 4.32 แสนบาท) อีกครั้ง ซึ่งสร้างความกังวลว่าแนวโน้มอาจปรับลงต่อเนื่อง โดยนักวิเคราะห์เตือนว่าราคามีโอกาสถอยลงไปแตะบริเวณ 2,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.37 แสนบาท)
เมื่อวันที่ 14 (เวลาท้องถิ่น) อีเธอเรียมแกว่งตัวใกล้ที่ระดับ 3,000 ดอลลาร์ (ราว 4.05 แสนบาท) หลังจากไม่สามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ 3,800 ดอลลาร์ (ราว 5.13 แสนบาท) และเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน ส่งผลให้ทิศทางเปลี่ยนแปลงเป็นขาลง ในขณะเดียวกัน เส้นค่าเฉลี่ย 200 วันกำลังชี้ลง บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของโมเมนตัมในช่วงกลางเทอม
ตัวชี้วัดด้านเทคนิคอย่าง ‘ดัชนีความแข็งแรงสัมพัทธ์’ หรือ RSI ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 33 ซึ่งสะท้อนว่า ‘แรงขายยังเป็นฝ่ายเหนือกว่า’ ถึงแม้ตัวเลขนี้จะบ่งชี้ว่าอีเธอเรียมอยู่ในโซนขายมากเกินไป แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณใดชี้ชัดว่าจะกลับตัวขึ้นในระยะสั้น หากระดับ 3,000 ดอลลาร์ถูกทำลายลง แรงขายอาจกระหน่ำหนักขึ้น และระดับถัดไปที่ต้องจับตาคือแถว 2,500 ดอลลาร์
กราฟราย 4 ชั่วโมงเปิดเผยทิศทางขาลงอย่างชัดเจน โดยอีเธอเรียมหลุดจากแนวโน้ม ‘ธงขาลง’ (bear flag) ซึ่งเป็นสัญญาณของการปรับฐานต่อเนื่อง พร้อมทั้งกลับมาทดสอบแนวรับที่ 3,000 ดอลลาร์อีกครั้ง โครงสร้างราคาที่ทำ ‘จุดสูงและจุดต่ำ’ ต่ำลงเรื่อยๆ ชี้ให้เห็นว่าการรีบาวด์ใดๆ อาจกลายเป็นเพียงแค่โอกาสในการขายมากกว่าจะเป็นจุดกลับตัว
ข้อมูลในเชิง on-chain นั้น แม้จะให้ภาพที่แตกต่างออกไปเล็กน้อย แต่ไม่เพียงพอที่จะพลิกแนวโน้มได้ โดยปริมาณอีเธอเรียมในศูนย์กลางซื้อขายยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง เหลือเพียง 15 ล้าน ETH ซึ่งตีความได้ว่า นักลงทุนยังคงถือสินทรัพย์ไว้ในกระเป๋าส่วนตัว สะท้อนแนวโน้มการสะสมในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ด้านอุปสงค์ในตลาดยังค่อนข้างซบเซา โดย ‘แรงซื้อตลาดสปอต’ ยังไม่เพียงพอในการดูดซับแรงขายที่เกิดขึ้น จึงทำให้แนวโน้มการปรับฐานยังคงมีน้ำหนักมากกว่าการฟื้นตัว ความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานในขณะนี้เป็นอีกปัจจัยที่กดดันราคาอีเธอเรียมอย่างต่อเนื่อง
ในภาพรวม ทั้งปัจจัยทางเทคนิคและการวิเคราะห์ด้านอุปสงค์/อุปทานยังคงไม่เอื้อกับราคาของ ETH ในระยะสั้น *ความคิดเห็น* จุดเปลี่ยนสำคัญที่จะต้องจับตาคือ การสามารถทะลุแนวต้านที่ 3,800 ดอลลาร์ได้หรือไม่ ก่อนถึงจุดนั้น กลยุทธ์ที่มีแนวโน้มได้เปรียบมากกว่าอาจเป็นการรอจังหวะหรือขายเมื่อมีการดีดตัวมากกว่าการเข้าซื้อทันที
ความคิดเห็น 0